จากกรณีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประธาน นายเชตวัน เตือประโคน ส.ส.ปทุมธานี พรรคประชาชน ในฐานะรองประธาน กมธ. นายพนม โพธิ์แก้ว ส.ส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 5 คณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎรนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ โฆษก กมธ.พร้อมคณะ กมธ.ลงพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อประชุมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินที่อยู่ในความครอบครองของทหารกับประชาชนพื้นที่ แปลง 6,000 ไร่ ระหว่างวันที่ 12-13 พ.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ 23 พ.ค.68 ที่ห้องประชุมกัลปพฤกษ์ ชั้น 2 อาคารมัชฌิมาคาร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบหมายให้นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานประชุมแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินที่อยู่ในความครอบครองของทหารกับประชาชนในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ ครั้งที่ 1 โดยมี นายสุริยศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี พันเอกสุรเดช เมฆานุวงศ์ รอง เสธ กองกำลังสุรสีห์ พันตำรวจเอกพิพัฒน์ รุ่งสัมพันธ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี นายสุรชิต บัวทอง ผอ.ส่วนทรัพยากรธรรมชาติ ทสจ.กาญจนบุรี นายวัชระ ละอออ่อน ผู้อำนวยการส่วนจัดการพื้นที่ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) นายภูวพล รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี นายสถาพร บุญสมจิตร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านพระเจดีย์สามองค์ รวมถึง ผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี และผู้แทนหน่วยงานราชการทุกหน่วยงานที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ดิน แปลง 6,000 ไร่ทั้งหมดเข้าร่วมประชุม
โดยนายสุรชิต บัวทอง ผอ.ส่วนทรัพยากรธรรมชาติ ทสจ.กาญจนบุรี ได้ประชุมชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นการใช้ประโยชนที่ดินบริเวณท้องที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ รวมถึงหนังสือคณะกรรมาธิการการทหาร ด่วนที่สุดที่ เรื่องขอให้พิจารณาแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินที่อยู่ในความครอบครองของทหารกับประชาชนในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ แปลง 6,000 ไร่
สำหรับบ้านพระเจดีย์สามองค์ตั้งอยู่หมู่ 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาช้างเผือก ด้านทิศตะวันออกติดป่า ทิศใต้ติดบ้านซองโกเลีย หมู่ 8 ตำบลหนองลู ทิศเหนือและทิศตะวันตกติดแนวเขตชายแดนประเทศเมียนมา ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดนที่ชัดเจน
บ้านพระเจดีย์สามองค์เป็นพื้นที่ที่จังหวัดกาญจนบุรีเคยได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาช้างเผือก เพื่อจัดตั้งหมู่บ้านป้องกันตนเองชายแดนไทย-พม่า เนื้อที่ประมาณ 6,000 ไร่ เป็นระยะเวลา 30 ปี สิ้นสุดการอนุญาตแล้วเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 โดยได้มีการพัฒนาพื้นที่ติดต่อกันมาอย่างยาวนาน
ทำให้ปัจจุบันเป็นชุมชนมีราษฎรอยู่อาศัยทำกินเป็นจำนวนมาก มีทั้งอาคารบ้านเรือน ที่อยู่อาศัยอาคารพาณิชย์ วัด โรงเรียน อาคารสำนักงานของส่วนราชการต่างๆ รวมทั้งพื้นที่เกษตรกรรม เช่นสวนยางพารา สวนป่าสัก สวนผลไม้ และแปลงผัก เป็นต้น
ต่อมาพื้นที่บริเวณดังกล่าวกองทัพบกได้ยื่นคำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาช้างเผือก เนื้อที่ 7,126-2-49 ไร่ เพื่อใช้เป็นพื้นที่เพื่อความมั่นคง โดยได้รับความเห็นชอบจากสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหนองลู สมัยสามัญสมัยที่ 2 ประจำปีพ.ศ 2560 ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2560 ปัจจุบันยังไม่ได้มีการอนุญาตให้ใช้พื้นที่ เนื่องจากกรมป่าไม้ขอให้จังหวัดตรวจสอบรายละเอียดของพื้นที่เพิ่มเติมรวมทั้งให้ตรวจสอบการขออนุญาตทับพื้นที่ที่กองทัพขออนุญาต.
ซึ่งจังหวัดได้ตรวจสอบแล้วพบว่ามีหน่วยงานราชการอื่นๆ ได้แก่ กรมปศุสัตว์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และกรมส่งเสริมการเกษตร ที่ได้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ แล้วได้ยื่นคำขออนุญาตตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 การเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้และขอผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2523 ในกรณีที่ปรากฏว่ายังมีส่วนราชการใดเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาต
จากข้อเท็จจริงของพื้นที่ หากกรมป่าไม้อนุญาตให้กองทัพบกเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาช้างเผือก เนื้อที่ 7,126-2-49 ไร่ เพื่อใช้เป็นพื้นที่เพื่อความมั่นคง อาจส่งผลกระทบกับความเป็นอยู่ราษฎรที่อยู่อาศัยทำกินอยู่เดิม รวมทั้งหน่วยงานราชการต่างๆในพื้นที่ คณะกรรมาธิการกาทหาร จึงมีมติการประชุมเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 ให้กองทัพบก จังหวัดกาญจนบุรีรวมทั้งหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ทบทวนและพิจารณาจำแนกพื้นที่การขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ให้เหมาะสมกับการใช้ประโยชน์และไม่เกิดความการทับซ้อนของพื้นที่ในภายหลัง
นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยถึงการประชุมแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินที่อยู่ในความครอบครองของทหารกับประชาชนในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ ครั้งที่ 1 ในวันนี้ ตนได้รับมอบหมายจากนายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี มาเป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรีได้เป็นเจ้าภาพในการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาประชุมทำความเข้าใจกับเจ้าของพื้นที่คือกรมป่าไม้ รวมถึงทหาร
ซึ่งต้องมาดูว่าพื้นที่ด้านความมั่นคงนั้นทางทหารจะดูแลอย่างไร และพื้นที่ส่วนราชการต่างๆที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันจะมีการดำเนินการอย่างไรซึ่งจะต้องมาขออนุญาตใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ร่วมกับทางทหาร ที่ดินในส่วนที่เหลือทางจังหวัดโดยคณะกรรมการ คทช.จังหวัด คณะที่ 1 จะไปดำเนินการขอใช้พื้นที่เพื่อนำมาจัดที่ดินให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป ซึ่งอีกประมาณ 3 อาทิตย์จะติดตามความคืบหน้าในการตรวจสอบแผนที่ที่ดินที่ใช้ด้านความมั่นคง พื้นที่ที่ใช้ในส่วนราชการว่าอยู่บริเวณไหน และพื้นที่ที่เหลือก็จะนำไปจัดสรรให้กับพี่น้องประชาชนตามนโยบายของรัฐ
สำหรับจุดเริ่มต้นในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินที่อยู่ในความครอบครองของทหารกับประชาชนในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ เจ้าของพื้นที่คือกรมป่าไม้ ได้แนะนำในที่ประชุมว่า การยื่นเอกสารขอใช้พื้นที่ทหารควรใช้คำยื่นคำขอเดิมที่เคยยื่นไปแล้ว ซึ่งทหารรู้อยู่แล้วว่ามีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่บริเวณใดบ้าง
ส่วนกรณีที่ทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านพระเจดีย์สามองค์ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอนุญาตให้ชาวบ้านสามารถตัดไม้สักเพื่อนำไปขายสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านนั้น ประเด็นนี้เป็นนโยบายของกรมป่าไม้ที่สนับสนุนให้ชาวบ้านปลูกไม้สักในสมัยนั้น ขณะนี้กรมป่าไม้กำลังหารือกันอยู่ว่าจะดำเนินการตามคำร้องขอของผู้ใหญ่บ้านได้อย่างไร ซึ่งต้องรอดูความชัดเจนจากเจ้าของพื้นที่คือกรมป่าไม้ก่อน
////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์