วันนี้ 22 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวเตือนประชาชนชาวกาญจนบุรีว่า ด้วยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสียง กอปรกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1(121/2568) ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.00 น. แจ้งว่า ในช่วงวันที่ 23-27 พฤษภาคม 2568
มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมจะพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้
และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้มีประกาศฉบับที่ 5/2568 ลงวันที่ 20 พฤษภาคม2568 เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินโคลนถล่ม ระหว่างวันที่ 23-27 พฤษภาคม 2568
โดยจังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินโคลนถล่ม ระหว่างวันที่ 23-27 พฤษภาคม 2568 รวม 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอทองผาภูมิ อำเภอไทรโยค อำเภอศรีสวัสดิ์ และอำเภอสังขละบุรี
ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ จึงให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยดำเนินการ ดังนี้
1.ติดตามสถานการณ์และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ข้อมูลข่าวสารของทางราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกรณีพื้นที่ที่มีฝนตกหนักสะสมในพื้นที่ พร้อมทั้งประสานการปฏิบัติกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อาทิเช่น ทหาร ตำรวจ หน่วยงานชลประทาน สถาบันการศึกษา มูลนิธิ อาสาสมัคร ฯลฯ เตรียมความพร้อมกำลังพล วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักรและยานพาหนะ ให้พร้อมปฏิบัติงาน อำนวยความสะดวก
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติโดยเฉพาะ ถ้ำ น้ำตก ถ้ำลอด หากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว ตลอด 24 ชั่วโมง
2.ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทุกระดับ และหน่วยงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตรียมความพร้อมในการออกปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัย อาทิ การกำจัดวัชพืช ขยะตามเส้นทางน้ำ การพร่องน้ำในแหล่งน้ำ การเร่งระบายน้ำ การเปิดทางน้ำออกจากพื้นที่ชมชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วม การระบายน้ำเพื่อส่งน้ำไปกักเก็บในแหล่งน้ำที่มีน้ำน้อย โดยประเมินสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิดพร้อมทั้ง ตรวจสอบความมันคง เรือแพ โป๊ะเรือ ท่าเทียบเรือ และจุดเสี่ยงพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ ถ้าไม่มีความมั่นคงแข็งแรง พิจารณาแล้วเป็นอันตรายให้แก้ไขโดยด่วน
3. ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทุกระดับ และหน่วยงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบการก่อสร้าง บำรุงรักษาถนน ในการตรวจสอบปรับปรุง กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาโครงการที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาการระบายน้ำในช่วงช่วงฝนตกหนัก พร้อมทั้งให้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจร ติดตั้งป้ายสัญญาณจราจรแจ้งเตือนประชาชนใช้ความระมัดระวัง หรือหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวให้ชัดเจน
นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า หากเกิดสถานการณ์สาธารณภัยขึ้นในพื้นที่ ให้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันที โดยประสานจัดกำลังจิตอาสาเข้าร่วมปฏิบัติงานด้วย พร้อมทั้งแจ้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรีทราบทันที ทางหมายเลขโทรศัพท์/โทรสาร 034-515998,034-516795 และแอปฟลิเคชันไลน์ : รายงานสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี
////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์