ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม ย้อนกลับ
กรมมลพิษออกเกณฑ์สิ่งปะปนของเศษกระดาษที่นำเข้ามาในประเทศ
17 พ.ค. 2568

นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์กระดาษที่ผลิตได้ในประเทศจะถูกใช้เพื่อการบริโภคในประเทศ และเป็นบรรจุภัณฑ์สินค้าที่ส่งออก ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรมรีไซเคิลกระดาษ โดยเฉพาะกระดาษเยื่อใยยาวที่ทำจากไม้สนต่างประเทศที่ไม่มีในประเทศไทย จึงจำเป็นต้องนำเข้ากระดาษที่ใช้แล้วจากต่างประเทศ หรือ “กระดาษหรือกระดาษแข็งที่นำกลับคืนมาใช้ได้อีก” ตามพิกัดอัตราศุลกากร ประเภท 47.07

แต่ในกรณีที่มีการปนเปื้อนด้วยวัสดุอื่น เช่น พลาสติก ยางไม้ สิ่งทอ แก้ว โลหะ เศษอาหาร เฟอร์นิเจอร์แตกหัก และของชำรุดหรือของทิ้งอื่น ๆ เป็นต้น จะเข้าข่ายเป็นขยะเทศบาล (Municipal Waste) พิกัดอัตราศุลกากร 3825.10.00 ซึ่งเป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้าและห้ามนำผ่านราชอาณาจักร ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ ฉบับลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 ภายใต้พระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522

นางสาวปรีญาพรกล่าวว่า ปี 2567 คพ.ร่วมกับกรมศุลกากร และกรมโรงงานอุตสาหกรรม ตรวจพบตู้สินค้าซึ่งสำแดงชนิดสินค้าเป็นกระดาษหรือกระดาษแข็งที่นำกลับคืนมาใช้ได้อีก ตามพิกัดอัตราศุลกากร 47.07 แต่ภายในตู้สินค้ามีวัสดุชนิดอื่นปะปนจำนวนมาก อาทิ โฟม เศษพลาสติก เศษผ้า กระป๋องน้ำอัดลม อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผ้าอ้อม ถุงมือทางการแพทย์ใช้แล้ว เข้าข่ายเป็นขยะเทศบาล ซึ่งเป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้าและห้ามนำผ่านราชอาณาจักร เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติงานของหน่วยงานกำกับดูแลการนำเข้าเศษกระดาษรวมถึงภาคเอกชนที่นำเข้าสินค้าดังกล่าว

คพ.จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานกำหนดมาตรการกำกับควบคุมการนำเข้าเศษกระดาษและหลักเกณฑ์การพิจารณาระดับสิ่งปะปนของเศษกระดาษที่จะอนุญาตให้นำเข้า โดยมี คพ. กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมศุลกากร กรมการค้าต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม ร่วมเป็นคณะทำงาน

ล่าสุด คพ.ได้ออกประกาศ “หลักเกณฑ์การพิจารณาระดับสิ่งปะปนของเศษกระดาษที่จะนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2568” มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแนวทางสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการควบคุมการนำเข้าเศษกระดาษอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งประกาศฉบับนี้อิงจากมาตรฐานของสหภาพยุโรป

โดยกำหนดสิ่งต้องห้ามในเศษกระดาษ ได้แก่ สารเคมีอันตรายและวัตถุอันตราย กัมมันตภาพรังสี มูลฝอยติดเชื้อ และขยะพิษจากชุมชน และกำหนดร้อยละของสิ่งปะปนอื่นที่ไม่ใช่กระดาษ เช่น พลาสติก โลหะ แก้ว วัสดุสังเคราะห์ ไม้ ดิน เป็นต้น ต้องไม่เกิน 2% สำหรับเศษกระดาษที่แยกชนิดมาแล้ว ได้แก่ 47.07.10 (กระดาษคราฟต์หรือกระดาษลูกฟูก) 47.07.20 (กระดาษขาว) 47.07.30 (กระดาษหนังสือพิมพ์) และไม่เกิน 3% สำหรับเศษกระดาษรวม ตามพิกัดอัตราศุลกากร 47.07.90

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 พฤษภาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
21 เม.ย. 2568
“กีฬา ... กีฬา ... เป็นยาวิเศษ” ส่วนหนึ่งของคำประพันธ์ที่นำมาร้องกันในสมัยก่อน หรืออาจจะร่วมถึงในยุคสมัยนี้ด้วยก็คงไม่ผิด และแน่นอนความหมายของนั้นก็คือ การเล่นกีฬา การออกกำลังกายนั้น มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายเปรียบเสมือนเกราะป้องกันโรคภัยของเรานั่นเอ...