เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2568 ที่ห้องประชุม 3 อาคาร HS05 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ร่วมกับสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สานพลังภาคีอาสา จ.ขอนแก่น จัดประชุม “สานพลังภาคีอาสา สร้างจังหวัดเข้มแข็ง” ภายใต้การทำงาน ภาคีสานพลังพื้นที่เข้มแข็ง หรือ ภสพ. แลกเปลี่ยนเรียนรู้การและกำหนดทิศทาง โดยการใช้ข้อมูลแก้ไขปัญหาสำคัญในพื้นที่เฉพาะ สนับสนุนการบูรณาการความร่วมมือ จ.ขอนแก่นน่าอยู่ สู่การพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน พร้อมนำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่เรียนรู้รูปธรรมความสำเร็จ ที่ เทศบาลตำบลสาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า ดัชนีความมั่นคงทางสุขภาพของไทยอยู่ที่อันดับ 5 ของโลก โดยข้อมูลอายุคาดเฉลี่ยปี 2567 อยู่ที่ 76.56 ปี เป็นอันดับ 78 ของโลก ข้อมูลปี 2565 พบสาเหตุการตายในกลุ่มอายุน้อยและวัยทำงาน 170,000 คน เกิดจากอุบัติเหตุและโรคไม่ติดต่อ NCDs จึงเกิดการสร้างเสริมสุขภาพสานพลังระดับพื้นที่ มีเป้าหมายหลักของแผนงานสร้างจังหวัดเข้มแข็ง เพื่อลดช่องว่างทางสังคม และความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการสุขภาพ เพื่อทำให้ประชากรมีสุขภาวะที่สมบูรณ์ ซึ่งขึ้นอยู่กับ 5 ปัจจัยหลัก 1. พฤติกรรมสุขภาพ 2. สิ่งแวดล้อม 3. ชุมชนเข้มแข็ง 4. ระบบบริการสุขภาพ 5.นโยบายสาธารณะดี ทั้ง 7 หน่วยงานบูรณาการข้อมูลทำความร่วมมือในรูปแบบ “ภาคีอาสา” สร้างจังหวัดเข้มแข็ง สามารถวิเคราะห์และตัดสินใจแก้ปัญหาได้ในพื้นที่ สอดคล้องกับนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ต้องการสร้างโอกาสให้ประชาชนในระดับพื้นที่ ขับเคลื่อนนโยบายด้านสุขภาพของประเทศ
“การทำงานของภาคีอาสาของ จ.ขอนแก่น ขับเคลื่อนกระบวนการนโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วมในระดับจังหวัด จัดการปัจจัยกำหนดสุขภาพที่สำคัญของจังหวัด ลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิต โดยแผนขับเคลื่อนปี 2568 ของ ภสพ. เริ่มต้นใน 5 จังหวัดเข้มแข็ง ได้แก่ เชียงราย นครสวรรค์ ขอนแก่น ตราด และพัทลุง และในปี 2569 ขยายผลครอบคลุม 13 เขตสุขภาพ สร้างผลลัพธ์ที่ชัดเจนทั้งการลดอัตราการป่วย การเพิ่มการเข้าถึงบริการ และการพัฒนาคุณภาพชีวิต การบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานได้นำข้อมูลประชากร ข้อมูลด้านสุขภาพ ข้อมูลด้านเศรษฐกิจ อายุคาดเฉลี่ย และระบบฐานข้อมูลภาคีอาสา เพื่อสร้างข้อตกลงแผนงานยุทธศาสตร์การทำงานระดับจังหวัด” นพ.พงศ์เทพ กล่าว
ผศ.ดร.วิบูลย์ วัฒนนามกุล สมัชชาสุขภาพจังหวัดขอนแก่นและคณะทำงานภาคีอาสาจังหวัดขอนแก่น (ภสพ.จังหวัดขอนแก่น) กล่าวว่า จ.ขอนแก่น มีความท้าทายในการพัฒนาอยู่หลายมิติ เช่น ปัญหาสุขภาพ เศรษฐกิจ การศึกษา การสร้างพื้นที่เรียนรู้ สังคม สิ่งแวดล้อม การจัดการอาหารปลอดภัยและการคุ้มครองผู้บริโภค จึงต้องมีการกำหนดประเด็นที่ครอบคลุมกับปัญหาในพื้นที่ โดยการวิเคราะห์สถานการณ์ในแต่ละด้าน เพื่อพัฒนากลไกให้ครอบคลุม รวมถึงการกำหนดแผนปฏิบัติการระยะสั้น ไปจนถึงระยะยาว สำหรับพื้นที่บ้านสาวะถี ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น มีต้นทุนทางชุมชน เช่น การท่องเที่ยว การศึกษา การจัดกระบวนการเรียนรู้ สิ่งแวดล้อม กลุ่มเปราะบาง และอาหารปลอดภัย และให้ความสำคัญในการใช้ข้อมูลเพื่อกำหนดการพัฒนา มีประสบการณ์ในการทำข้อมูลตำบล โดยใช้โปรแกรม TCNAP (Thailand Community Networking Appraisal Program-TCNAP) ที่นำมาใช้ดำเนินงานตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ชุมชน สะท้อนความพยายามของชุมชนในการจัดการและแก้ปัญหาของพื้นที่ ส่งผลให้เกิดเป็นชุมชนท้องถิ่นที่เข้มแข็ง
“เทศบาลตำบลสาวะถี พัฒนาตำบลสุขภาวะผ่านการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เช่น การส่งเสริมสุขภาพ การจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ในชุมชน การบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็กออทิสติก และส่งเสริมการพึ่งพาตนเองของครอบครัว การดำเนินงานของสภาองค์กรชุมชน โดยใช้กลไกกองทุนสวัสดิการชุมชนเป็นเครื่องมือสร้างความมั่นคงทางสังคม การพัฒนาเด็กและเยาวชนผ่านกระบวนการเรียนรู้ด้วยสื่อศิลปวัฒนธรรม เช่น ห้องเรียนมัคคุเทศก์น้อย ปลูกฝังคุณค่าและสร้างสุขภาวะในโรงเรียน การจัดการอาหารปลอดภัยในระดับชุมชน ด้วยการส่งเสริมการปลูกพืชผักปลอดสาร การมีแปลงเกษตรตัวอย่าง และการมีส่วนร่วมของครัวเรือน ส่งเสริมการเรียนรู้และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยเยาวชนผ่านบทบาทมัคคุเทศก์น้อย ช่วยอนุรักษ์และถ่ายทอดเรื่องราวจากจิตรกรรมฝาผนังวัด ร่วมกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในชุมชน” ผศ.ดร.วิบูลย์กล่าว