ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
โฆษกทัพเรือ แจ้งเหตุจ่าเอกฯ ในสังกัดเมาแล้วขับ และมีกำลังพลบุกโรงพักพลูตาหลวง
27 ก.พ. 2568

พลเรือเอก พาสุกรี วิลัยรักษ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ตามที่สื่อมวลชนได้มีการนำเสนอข่าวกรณี จ่าเอก เกรียงศักดิ์ แต่กลาง สังกัดหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง พร้อมทหารกองประจำการอีก 2 นาย  ขับรถขณะมึนเมาจนประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถของประชาชน ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยภายหลังจากการถูกควบคุมตัวไปยังสถานีตำรวจภูธรพลูตาหลวง ได้ปรากฏว่า มีกำลังทหารยามจากหน่วยต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) พร้อมอาวุธประจำกายเดินทางมายังสถานีตำรวจ สร้างความไม่พอใจให้กับพนักงานสอบสวน นั้น

โฆษกกองทัพเรือเปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกองทัพเรือขอเรียนให้ทราบถึงข้อเท็จจริงดังนี้

 เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22.30 น.ขณะที่ เรือโท สมเกียรติ บำรุงราษฎร์ สังกัด กองร้อยบังคับการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง  ขณะปฎิบัติหน้าที่หัวหน้าชุดตรวจพื้นที่ประจำวัน นำกำลังพลชุดตรวจพื้นที่ จำนวน  6 นาย พร้อมอาวุธปืนประจำกาย ออกตรวจพื้นที่   ได้รับแจ้งจาก นายทหารเวรประตูใหญ่ของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง   ว่าเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกัน ห่างจาก หน้าประตูใหญ่ของหน่วย ฯ ประมาณ 1 กิโลเมตร จึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและพบ จ่าเอก เกรียงศักดิ์ พร้อม ทหารกองประจำการ (พลทหาร)  2 นายและคู่กรณี    

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่เพียงคนเดียว จึงได้ขอร้องให้กำลังพลในชุดตรวจพื้นที่ช่วยขับรถของ จ่าเอก เกรียงศักดิ์  ซึ่งขณะนั้นมีอาการเมาสุราและเสียกริยา เดินทางไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ที่สถานีตำรวจภูธรพลูตาหลวง  เพื่อตรวจสอบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ทางเรือโท สมเกียรติ จึงได้มอบหมายให้ จ่าเอก กฤษณพงษ์  ทองหลง เป็นผู้ขับรถ โดย เรือโท สมเกียรติ ได้เดินทางตามไปที่สถานีตำรวจ พร้อมกับชุดสายตรวจ เพื่อไปรับ จ่าเอก กฤษณพงษ์ กลับ  

แต่เมื่อไปถึงสถานีตำรวจ ได้รับการประสานจากร้อยเวรประจำวัน ให้ช่วยนำตัว จ่าเอกเกรียงศักดิ์ ไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ที่สถานีตำรวจภูธรบ้านฉางที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกันเนื่องจากสถานีตำรวจภูธรพลูตาหลวงไม่มีอุปกรณ์ตรวจวัดแอลกอฮอล์ ประกอบกับรถของทางสถานีฯ ในขณะนั้นออกไปปฎิบัติหน้าที่หมด ทางเรือโท สมเกียรติ จึงได้ให้การสนับสนุนในการนำตัว จ่าเอกเกรียงศักดิ์ไปตรวจวัดแอลกอฮอล์และเมื่อ ดำเนินการเสร็จแล้ว ได้นำกลับมาส่งยังสถานีตำรวจภูธรพลูตาหลวง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมกับรับตัวจ่าเอกกฤษณพงศ์ที่ช่วยขับรถให้เจ้าที่ตำรวจและ พลทหารอีก 2 นาย ที่ไปร่วมดื่มสุรากับ จ่าเอก เกรียงศักดิ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัวให้กลับ เนื่องจากไม่มีความผิดทางอาญา

โฆษกกองทัพเรือกล่าวว่า ขณะนี้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของ จ่าเอก เกรียงศักดิ์ ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้สั่งให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ กองทัพเรือได้เน้นย้ำกำลังพลให้ปฏิบัติตามระเบียบวินัยทหารอย่างเคร่งครัด ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำผิดจริงให้พิจารณาลงโทษตามตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวินัยทหารอย่างเคร่งครัด ส่วนคดีทางอาญาเกี่ยวกับการกระทำความผิด ขับขี่รถขณะเมาสุรา ให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายโดยยืนยันไม่ปกป้องข้าราชการที่กระทำผิด

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
21 เม.ย. 2568
“กีฬา ... กีฬา ... เป็นยาวิเศษ” ส่วนหนึ่งของคำประพันธ์ที่นำมาร้องกันในสมัยก่อน หรืออาจจะร่วมถึงในยุคสมัยนี้ด้วยก็คงไม่ผิด และแน่นอนความหมายของนั้นก็คือ การเล่นกีฬา การออกกำลังกายนั้น มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายเปรียบเสมือนเกราะป้องกันโรคภัยของเรานั่นเอ...