ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
สกลนคร คลื่นนักท่องเที่ยวแห่ชมปราสาทผึ้งออกพรรษาคึกคักกระตุ้นเศรษฐกิจเงินสะพัด
16 ต.ค. 2567
ระหว่างวันที่ 12-15 ตุลาคม 2567  ที่บริเวณถนนศูนย์ราชการ อ.เมือง จ.สกลนคร มีบรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินับหมื่นคน ต่างเดินทางเข้าเที่ยวชมงานประเพณีเทศกาลออกพรรษาแห่ปราสาทผึ้ง และแข่งขันเรือยาวพระราชทานฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-17 ตุลาคม 2567 ซึ่งตลอดช่วงถนนศูนย์ราชการเป็นจุดจอดตั้งโชว์ขบวนปราสาทผึ้งประยุกต์และโบราณของชาวคุ้มวัด ที่ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างขึ้นนานกว่า 2 เดือน เตรียมนำไปร่วมขบวนแห่เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาในวัดออกพรรษา ถูกนำมาจัดตั้งโชว์ประดับไฟแสงสีให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมงานฝีมือการทำปราสาทผึ้งประเพณีที่ยิ่งใหญ่ของชาวจังหวัดสกลนครอย่างใกล้ชิด โดยลวดลายปราสาทผึ้งสื่อถึงพุทธประวัติ เรื่องราววรรณคดีไทย วิถีชีวิต การแกะสลักหล่อและเทพิมพ์เทียนขี้ผึ้งเป็นลวดลายไทยต่างๆ อย่างประณีตสวยงาม  นอกจากนี้ภายในงานยังประกอบด้วยกิจกรรมการแสดงศิลปะพื้นบ้านนิทรรศการต่างๆ การติดดอกผึ้งและร้านค้า ร้านขายอาหาร ไทย จีน เวียดนม ซึ่งสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้เงินหมุนเวียนสะพัดในช่วงเทศกาลออกพรรษาได้เป็นอย่างดี
 
90
 
 
 
กำหนดการวันที่ 16 ตุลาคม 2567  เวลา 18..00 น.จะมีพิธีเปิดงานประเพณีแห่ปราสาทผึ้งฯ และปล่อยขบวนแห่ปราสาทผึ้ง ประกอบแสง สี เสียง ณ สี่แยกหอนาฬิกา ถนนสุขเกษม เคลื่อนไปยังบริเวณ พิธีถวายปราสาทผึ้ง ณ วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร และวันที่ 17 ตุลาคม 2567  เวลา 07.00 น.จะมีทำบุญตักบาตรวันออกพรรษา ณ วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร อ.เมือง จ.สกลนคร
ขณะเดียวกันบริเวณโซนจุดโชว์แห่ปราสาทผึ้งมีเหล่าบรรดาช่างภาพมืออาชีพได้นำอุปกรณ์ไปตั้งไว้บริเวณจุดจอดโชว์ปราสาทผึ้ง บริการถ่ายภาพให้นักท่องเที่ยวฟรี เพื่อช่วยจังหวัดสกลนครในการโปรโมทการท่องเที่ยวด้วยภาพถ่ายที่คมชัดสวยงามอีกด้วย 
 
/////////////////////////// วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร 0819541528
หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 พฤษภาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
21 เม.ย. 2568
“กีฬา ... กีฬา ... เป็นยาวิเศษ” ส่วนหนึ่งของคำประพันธ์ที่นำมาร้องกันในสมัยก่อน หรืออาจจะร่วมถึงในยุคสมัยนี้ด้วยก็คงไม่ผิด และแน่นอนความหมายของนั้นก็คือ การเล่นกีฬา การออกกำลังกายนั้น มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายเปรียบเสมือนเกราะป้องกันโรคภัยของเรานั่นเอ...