ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม ย้อนกลับ
บอร์ด กฟผ.มีมติเห็นชอบ"วิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย" นั่งเก้าอี้ผู้ว่าการ กฟผ.คนที่ 14 เร่งผลักดันระบบสายส่ง หวังสร้างความมั่นคงภาคใต้ตามนโยบายรัฐมนตรีพลังงาน
23 ก.พ. 2561

ที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)วันที่ 21 ก.พ. 2561 มีมติเห็นชอบให้นายวิบูลย์  ฤกษ์ศิระทัย  รองผู้ว่าการพัฒนาระบบส่ง ขึ้นเป็นผู้ว่าการ กฟผ.คนใหม่ ถือนับเป็นผู้ว่า กฟผ.คนที่ 14 แทนนายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการ กฟผ. ที่จะครบวาระในวันที่ 30 เมษายน 2561

สำหรับนายวิบูลย์ นั้นมีประสบการณ์ด้านการพัฒนาระบบส่ง ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนปัจจุบัน ที่ต้องการเร่งรัดการลงทุนระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูงในภาคใต้ เพื่อแก้ปัญหาความมั่นคงไฟฟ้าในภาคใต้ในระยะสั้น โดยโครงการเร่งด่วนที่นายวิบูลย์ จะเข้ามารับผิดชอบได้แก่ โครงพัฒนาระบบส่งไฟฟ้า 500 kv ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ได้แก่ 1.โครงการ TTWS ระยะที่ 1 กำหนดก่อสร้างเสร็จปี 2563 และระยะที่ 2 กำหนดก่อสร้างเสร็จปี 2566  2.โครงการ TILS ระยะที่ 1 กำหนดก่อสร้างเสร็จปี 2564 และระยะที่ 2 ซึ่งขึ้นอยุ่กับการพัฒนาโรงไฟฟ้าในภาคใต้ตอนล่าง 3. ศึกษาขยายระบบส่งเพิ่มเติมเชื่อมโรงไฟฟ้าขนอมสู่จ.สุราษฏ์ธานี อยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมโครงการ  

ทั้งนี้ นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย เกิดวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2503อายุ 57 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ (วิศวกรรมไฟฟ้า) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท บริหารธุรกิจ (การจัดการ) จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  อีกทั้งยังผ่านการอบรมในหลักสูตรสำคัญมากมาย อาทิ การป้องกันราชอาณาจักร วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร Director Accreditation Program จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย  Advanced Management Program จาก Harvard Business School นักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตระดับสูง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  หลักสูตรหลักประจำวิทยาลัยการทัพบก สถาบันวิชาการทหารบกชั้นสูง เป็นต้น ส่วนประวัติการทำงานที่สำคัญมีดังนี้ พ.ศ. 2556 - 2560 ดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้ว่าการวิศวกรรมระบบส่งพ.ศ. 2560 - ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการพัฒนาระบบส่ง

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 ธันวาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
02 ธ.ค. 2568
ต้องยอมรับว่า การปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยที่มั่นคง หัวใจสำคัญด้านหนึ่งต้อง มาจากฐานราก หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ การปกครอง ส่วนท้องถิ่นต้องเข้มแข็ง ซึ่งประเทศไทยเราเอง ก็พัฒนาขึ้นมาเป็นลำดับโดยเฉพาะเมื่อรัฐธรรมนูญ 2540 เปิดศักราชใหม่ให้กับการกระจายอำนาจลงสู่...