ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
เกณิกา เผย รัฐบาลห่วงหน้าร้อน ทำประชาชนป่วยฮีตสโตรก แนะเลี่ยงกิจกรรมกลางแดด
06 เม.ย. 2567

รองโฆษกรัฐบาลเผย รัฐบาลห่วงใยสุขภาพประชาชน ขอให้ดูแลตนเองช่วงอากาศร้อน แนะหลีกเลี่ยงทำกิจกรรมกลางแดดร้อนจัด ป้องกันการเจ็บป่วยจากโรคลมแดด หรือโรคฮีตสโตรก

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในขณะนี้ที่ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว ทำให้หลายพื้นที่มีอากาศร้อนอบอ้าว มีค่าดัชนีความร้อนพุ่งสูงขึ้น และอาจมีอุณหภูมิสูงถึง 44.5 องศาเซลเซียส รัฐบาลโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และกระทรวงสาธารณสุข เป็นห่วงประชาชนที่เสี่ยงภาวะฮีทสโตรก ซึ่งอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ จึงขอให้กลุ่มเสี่ยง ทั้งเด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว อยู่ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก เลี่ยงอยู่กลางแดดนาน ๆ ส่วนคนทำงานกลางแจ้งให้สลับเข้าที่ร่มเป็นระยะ

น.ส.เกณิกา กล่าวต่อว่า จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โรคลมร้อน หรือ ฮีทสโตรก (Heatstroke)เกิดจากภาวะที่ร่างกายร้อนจัดจนส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เป็นอาการที่พบได้ในช่วงที่ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อน ซึ่งเป็นอาการเสี่ยงต่อผู้ที่ทำงานหรืออยู่ในสถานที่ที่มีแดดจัด หรือมีอากาศร้อนอบอ้าว จึงขอแนะนำให้ประชาชนดูแลสุขภาพตนเองในช่วงอากาศร้อน สวมใส่เสื้อผ้าสีอ่อนที่ระบายความร้อนได้ดี หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดที่ร้อนจัด หลีกเลี่ยงทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงกลางแจ้งนาน ๆ สวมแว่นกันแดด กางร่ม สวมหมวกปีกกว้าง ดื่มน้ำมากกว่าปกติ เพื่อชดเชยการเสียน้ำในร่างกาย 

ทั้งนี้ ในครอบครัวที่มีผู้สูงอายุหรือเด็กอยู่ด้วย ไม่ควรปล่อยให้ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยติดเตียงในบ้านที่เป็นห้องกระจกปิดไว้เพียงลำพัง และอย่าทิ้งเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือสัตว์เลี้ยงไว้ในรถที่จอดไว้กลางแจ้ง เนื่องจากอุณหภูมิภายในรถจะสูงกว่าภายนอก อย่างไรก็ตาม หากประชาชนท่านใดพบผู้ที่กำลังเกิดอาการฮีทสโตรก สามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ด้วยการ รีบนำผู้ป่วยเข้าที่ร่มหรือที่ที่มีอากาศถ่ายเท จัดร่างกายให้ผู้ป่วยนอนราบ คลายเสื้อผ้าออกให้พอหลวม และใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตามร่างกาย และสามารถโทรแจ้งได้ที่ สายด่วน 1669 ทันที

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...