ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
“ปศุสัตว์จันทบุรี ร่วมกับเทศบาลเมืองท่าช้าง รณรงค์ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และเปลี่ยนสุนัขจรจัดเป็นสุนัขชุมชน สร้างความปลอดภัยแก่ประชาชน”
21 มี.ค. 2567

          21 มี.ค.67 เวลา 09.00 น.น.สพ.ชาติชาย ยิ้มเครือ ปศุสัตว์จังหวัดจันทบุรี ร่วมกับนายธวัชชัย จันทกิจ นายกเทศมนตรีเมืองท่าช้าง อ.เมืองจันทบุรี คณะผู้บริหาร นางสาวจีรวรรณ สาระทัศนานันท์ ปศุสัตว์อำเภอเมืองจันทบุรี น.สพ.มนัสกิจ พลศรี หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ 
และเจ้าหน้าที่ในสังกัดลงพื้นที่ ศูนย์บริการทางสังคมแบบมีส่วนร่วมจังหวัดจันทบุรี เทศบาลเมืองท่าช้าง อ.เมืองจันทบุรี รณรงค์ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า แก่สุนัข แมว ของประชาชน และจัดกิจกรรมเปลี่ยนสุนัขจรจัด เป็นสุนัขชุมชน ตามโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางวัฒน วรขัตติยราชนารี สร้างความเข้าใจแก่คนในชุมชนให้มีส่วนร่วมในการจับสุนัขที่เลี้ยงในพื้นที่สาธารณะ นำสุนัขมาฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ผ่าตัดทำหมัน ก่อนนำไปปล่อยกลับคืนสู่ชุมชน ให้ชุมชนช่วยกันดูแล ซึ่งจะช่วยลดพฤติกรรมดุร้ายของสุนัข และเป็นการควบคุมประชากรสัตว์ไม่ให้มีมากเกินไป สร้างพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้าในท้องถิ่น และทำให้เกิดความปลอดภัยแก่ประชาชน โดยเทศบาลเมืองท่าช้างให้การสนับสนุนวัคซีน 1,500 โด๊ส และเวชภัณฑ์ในการผ่าตัดทำหมัน ผลการปฏิบัติงานในวันนี้ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้แก่สุนัข แมว รวม 70 ตัว ผ่าตัดทำหมันเพื่อควบคุมประชากรสัตว์จรจัด รวม 55 ตัว พร้อมผูกคอ ห้อยเหรียญ แสดงเครื่องหมายการได้รับวัคซีน ให้คำปรึกษาแก่ประชาชนในการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องหากถูกสุนัขกัด เพื่อไม่ให้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้า ด้วยการล้างแผลด้วยน้ำสบู่ ใส่ยาทาแผล กักสุนัขหรือเฝ้าสังเกตอาการอย่างน้อย 10 วัน แล้วรีบไปพบแพทย์ทันที ในช่วงนี้ ขอความร่วมมือจากเจ้าของสุนัข แมว ติดต่อขอนำสัตว์เลี้ยงที่มีอายุตั้งแต่ 2-4 เดือนขึ้นไป ไปขอรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ตามที่เทศบาลหรือ อบต.ทุกแห่ง นัดหมายโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

 

 

ชลาธร  รัตตพลสกุล    ข่าวจันทบุรี

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...