ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
จัด งานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราชประจำปี พ.ศ.2567
14 ก.พ. 2567

         วันนี้ 14 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช  ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี ร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผวจ.กาญจนบุรี  มอบหมายให้ นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยนางจารีรัตน์ บุญประดิษฐ รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี นายประสิทธิ์ ปิ่มบุญ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี นายประกอบ แจ่มศรี ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี พันตำรวจเอก ธวัชชัย นรสิงห์ ผกก.สภ.พนมทวน นายทวิช เที่ยวมาพบสุข นายอำเภอพนมทวน และนายชาตรี เนียมหอม นายกเทศมนตรี ร่วมแถลงข่าว การจัดงานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประจำปี พ.ศ 2567 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้นำท้องที่ เข้าร่วม

       ทั้งนี้  นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี แถลงว่า จังหวัดกาญจนบุรี กำหนดจัดงานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประจำปี 2567 ขึ้นระหว่างวันที่ 17-26 กุมภาพันธ์  2567 รวม 10 วัน 10 คืน จุดประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย รวมทั้งเป็นการนำทุนทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่มีศักยภาพในพื้นที่มาส่งเสริมเป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมสืบทอดขนบธรรมเนียมประเพณีวิถีไทยของชุมชนให้คงอยู่ในสังคม ให้มีความหลากหลายมากขึ้น อีกทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมภายในจังหวัดกาญจนบุรี เพิ่มขึ้นอีกด้วย 

     โดยภายในงานมีกิจกรรมมากมาย อาทิ การจัดพิธีบวงสรวง พิธีสงฆ์ และการรำอาศิรวาท ในวันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 การแสดง แสง เสียง เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จำลองเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ตลาดย้อนยุค และการจำหน่ายสินค้า OTOP กว่า 100 ร้านค้า การแสดงศิลปวัฒนธรรมบริเวณเวทีกลาง ตั้งแต่เวลา 17.00-23.00 น. และการจำหน่ายสินค้า อาหาร ของดีเมืองกาญจน์และอาหารนานาชาติ พร้อมการแสดงมหรสพจากศิลปินทุกคืน

      ด้านนายประสิทธิ์ ปิ่มบุญ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมภายในงานจะมีการแสดง แสง เสียง ย้อนรอยประวัติศาสตร์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริย์ผู้กอบกู้เอกราชของชาติไทย ในชื่อชุด "พระนเรศวรจอมราชันย์ ตำนานมหาวีรกษัตริย์ศึก"โดยใช้เวลาในการแสดง 40 นาที สำหรับปีนี้นำเสนอการแสดง จำนวน 7 รอบ ทุกรอบการแสดงรองรับผู้ชมได้ 1,300 คน

        ขณะที่นางจารีรัตน์ บุญประดิษฐ รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี นายประกอบ แจ่มศรี ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี พ.ต.อ. ธวัชชัย นรสิงห์ ผกก.สภ.พนมทวน รวมทั้งนายทวิช เที่ยวมาพบสุข นายอำเภอพนมทวน และนายชาตรี เนียมหอม นายกเทศมนตรีตำบลดอนเจดีย์ ร่วมกันกล่าวว่า เราได้ร่วมบูรณาการสนับสนุนการจัดงานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประจำปี 2567 ทั้งในด้านงบประมาณอุดหนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค การควบคุมคุณภาพของอาหาร และเครื่องดื่มภายในงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี มาตรการรักษาความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยและการจัดระบบการจราจร เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการจัดงานจากสถานีตำรวจภูธรพนมทวน การสนับสนุนจากอำเภอพนมทวนและเทศบาลตำบลดอนเจดีย์ ในฐานะหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งเป็นการยืนยันความพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่านที่มาเที่ยวงานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประจำปี พ.ศ.2567 ให้มีความสุขและความประทับใจ

       ดังนั้นจังหวัดกาญจนบุรี ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว มาร่วมเที่ยวงานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประจำปี พ.ศ.2567 เริ่มตั้งแต่วันที่ 17-26 กุมภาพันธ์ นี้ ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี อย่างพร้อมเพรียง เชื่อว่านักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปที่มาจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

      โอกาสนี้ทางตัวแทนสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดกาญจนบุรี ได้พูดถึงความสำคัญของกษัตริย์ไทย ในสมัยกรุงศรีอยุธยามา โดยเฉพาะองค์พระบาทสมเด็จพระนเรศวรฯ พระองค์ต้องพลัดถิ่น เพื่อไปเป็นตัวประกันให้กับเพื่อนบ้าน และต้องทำศึกสงคราม เพื่อกรอบกู้ประเทศชาติให้คนไทยได้มีผืนแผ่นดินคนไทย อยู่ตราบทุกวันนี้ และอยากเห็นกระทรวงศึกษาธิการ น่าจะนำวิชาศีลธรรม หรือประวัติศาสตร์ของสถาบันกษัตริย์ไทย เหล่านี้นำเข้ามาในระบบการเรียน การสอนให้ชนรุ่นหลังได้ซาบซึ้ง  เพราะตามที่เป็นข่าวให้เห็นทุกวันนี้ เยาวชนรุ่นหลังไม่ได้เรียน จึงไม่รู้ว่าในอดีตพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ท่านมีความสำคัญอย่างไรบ้าง เด็กและเยาวชนรุ่นหลังจึงมีแต่ความก้าวร้าว ขาดจิตสำนึกไม่รู้ว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ อย่างที่เห็นทุกวันนี้นั่นเอง

       ประวัติ...พระมหากษัตริย์ผู้ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย ภายหลังที่เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 1 ในรัชสมัยของพระองค์ ทรงทำการศึกสงคราม และเอาชนะข้าศึกหลายครั้ง ครั้งที่สำคัญที่สุดคือ ใน พ.ศ. 2135 พระมหาอุปราชาของพม่าได้ยกทัพมาตีไทย พระองค์ทรงชนช้างกระทำยุทธหัตถี และทรงฟันพระมหาอุปราชาสิ้นพระชนม์บนคอช้าง ตั้งแต่นั้นมาพม่าก็เกรงกลัว เลิกยกทัพมารุกรานไทยอีก   พระบาทสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๒ (พระนเรศวรมหาราช)  มีพระนามเดิมว่าพระองค์ดำ พระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชา และพระวิสุทธิกษัตริย์ (พระราชธิดาของสมเด็จพระศรีสุริโยทัยและสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ) พระองค์เสด็จพระบรมราชสมภพเมื่อ พ.ศ. ๒๐๙๘ ที่เมืองพิษณุโลกทรง มีพระเชษฐภคิณีคือพระสุพรรณกัลยาทรงมีพระอนุชาคือสมเด็จพระเอกาทศรถ(องค์ขาว)และทรงเป็นพระราชนัดดาของสมเด็จพระศรีสุริโยทัย พระนามของพระองค์ปรากฏในลายลักษณ์อักษรหลายฉบับเช่น พระนเรศ วรราชาธิราช พระนเรสส องค์ดำ 

      จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าพระนาม นเรศวร ได้มาจากที่ใดสันนิษฐานเบื้องต้นว่า เพี้ยนมาจาก สมเด็จพระนเรศ วรราชาธิราช เป็น สมเด็จพระนเรศวร ราชาธิราช เสด็จขึ้นครองราชเมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๑๓๓ รวมสิริดำรงราชสมบัติ ๑๕ ปี  เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๑๔๘ รวมพระชนมพรรษา ๕๐ พรรษาราชการสงครามในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่งของชาติไทยพระองค์ได้

      กู้อิสรภาพของไทยจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก และได้ทรงแผ่อำนาจของราชอาณาจักรไทย อย่างกว้างใหญ่ไพศาล นับตั้งแต่ประเทศพม่า ตอนใต้ทั้งหมด นั่นคือจากฝั่งมหาสมุทรอินเดียทางด้านตะวันตก ไปจนถึงฝั่งมหาสมุทรปาซิฟิคทางด้านตะวันออก ทางด้านทิศใต้ตลอดไป ถึงแหลมมลายูทางด้านทิศเหนือก็ถึงฝั่งแม่น้ำโขงโดยตลอด และยังรวมไปถึงรัฐไทยใหญ่บางรัฐพระองค์ได้ทำสงครามเข้าไปในประเทศ ที่เป็นข้าศึกของไทย ในทุกทิศทาง จนประเทศไทยอยู่เป็นปกติสุขปราศจากศึกสงคราม เป็นระยะเวลายาวนาน พระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ทั้งสิ้น

ทั้งปวงของพระองค์ เป็นไปเพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองและคนไทยทั้งมวล ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ จะอยู่ในสนามรบและชนบทโดยตลอด มิได้ว่างเว้น แม้แต่เมื่อเสด็จสวรรคต ก็เสด็จสวรรคตในระหว่างเดินทัพไปปราบศัตรูของชาติไทยนับว่าพระองค์ได้ทรงสละพระองค์ เพื่อชาติ บ้านเมืองโดยสิ้นเชิง สมควรที่ชาวไทยรุ่นหลังต่อมา ได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ และจดจำวีรกรรมของพระองค์ เทอดทูลไว้เหนือเกล้า ฯ ไปตราบชั่วกาลนาน 
   ////////////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา   ไหลวารินทร์ - รายงาน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...