ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
อดีตรัฐมนตรี "สนธิรัตน์" คนท่าม่วง ปราศรัยหาเสียงช่วย ชูเกียรติ เบอร์ 3
04 พ.ค. 2566

อดีตรัฐมนตรี "สนธิรัตน์" คนท่าม่วง ปราศรัยหาเสียงช่วย ชูเกียรติ เบอร์ 3 บอกเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญ หากไม่อยากให้คนมาตีกันอีก ต้องเลือกพรรคที่ประกาศก้าวข้ามความขัดแข้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสนามกีฬาหลังเทศบาลตำบลท่าม่วง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย พลเอกณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม พลเอกภพอนันต์ เหลืองภาณุวัฒน์ อดีตหัวหน้าสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม พลตำรวจโท เรวัช กลิ่นเกสร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พลตำรวจตรี จาตุรงค์ ภุมรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายรังสรรค์ รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ อดีตนายก อบจ.กาญจนบุรี 
นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 15 พรรคพลังประชารัฐ เป็นต้น

บรรยากาศทั่วไปมี นายชูเกียรติ จีนาภักดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 2 เบอร์ 3 พรรคพลังประชารัฐ พร้อมทีมงานร่วมให้การต้อนรับ พ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวอำเภอท่าม่วง อำเภอด่านมะขามเตี้ย และ 4 ตำบลจากอำเภอพนมทวน เรือนหมื่นคนเดินทางมาร่วมรับฟังนโยบายของพรรค และเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องประชาชนร่วมเลือกตั้ง "ชูเกียรติ จีนาภักดิ์" เบอร์ 3 คนหนุ่มที่มีความตั้งใจ จะพัฒนากาญจนบุรี ให้เกิดความเจริญ

โอกาสนี้ นางศรีสมร  รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 15 พรรคพลังประชารัฐ ได้กล่าวแนะนำตัวเองลงแบบบัญชีรายชื่อ และพร้อมคณะที่เดินทางไปช่วย นายชูเกียรติ  จีนาภักดิ์  ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ ผู้สมัครของพรรคหมายเลข 3 เขตเลือกตั้งที่ 2 ปราศรัยย่อย ขอคะแนนกับชาวเขต 2 ในครั้งนี้
 
โอกาสนี้ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวบนเวทีกับประชาชนที่ไปร่วมฟังการปราศรัยในครั้งนี้ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญมากๆ เพราะมีบางพรรคบอกว่าจะแลนสไลด์ บางพรรค บอกจะเปลี่ยนทุกอย่างหมด แบบนี้มันจะเกิดอะไรตามมาอีก ขอฝากประชาชนคิดดู พรรคพลังประชารัฐ มีนโยบายออกมานาน ว่าจะต้องพาประเทศชาติก้าวข้ามความขัดแย้ง และผู้ที่จะทำหน้าที่นี้ได้ คือ พลเอกประวิทย์  วงษ์สุวรรณ เท่านั้น ท่านเป็นที่อยู่ในการบริหารบ้านเมืองมานาน ท่านเป็นผู้ประสานได้กับทุกฝ่ายเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ ไม่ต้องมีคนออกมาตีกันเหมือนอย่างที่เมื่อ 16 ปี ที่ผ่านมา ฉะนั้นตนเองถึงบอกว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้มีคำสำคัญมากๆ ไม่ใช่แค่ออกมาพูดกัน สุดท้ายทำอะไรไม่ได้ ประชาชน ลูกหลาน ประเทศชาติเดือดร้อนอีก ขอฝากประชาชนวันที่ 14 พ.ค. 2566 เมื่อออกไปเลือกตั้ง ให้ลงคะแนนให้กับพรรคที่ประกาศมาตลอดว่า จะก้าวข้ามความขัดแย้ง คือพรรคพลังประชารัฐ ที่พลเอกประวิทย์  วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค และเป็นนายกคนต่อไป

ส่วน นายชูเกียรติ จีนาภักดิ์ เบอร์ 3 ถือเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง ที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นกันเองกับพี่น้องประชาชนทุกคน และมีความมุ่งมั่นตั้งใจ กล่าวว่าจะขออาสารับใช้พ่อแม่พี่น้องประชาชน จากการเดินพบประชาชนทุกหลังคาแล้ว พบเห็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนในยุคนี้ คือที่ผ่านมาผู้ที่เป็น ส.ส. ขันอาสามารับใช้ประชาชนแล้วทำไมปล่อยให้ปัญหานี้เกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่อยู่อีก ส่วนตนเองเป็นคนหนุ่มก็ขันอาสามาเข้าไปแก้ไขให้ สุดท้ายจะได้รับความไว้วางใจหรือไม่ ขึ้นอยู่กับประชาชนในพื้นที่เขต 2 กาญจนบุรี ที่จะเข้าคูหาเลือกพรรคที่ชอบ คนที่ใช่ วันที่ 14 พ.ค. 2566 ขอฝากคนรุ่นใหม่ไว้ดูแลพี่น้องประชาชนด้วย

สำหรับ พลเอกณัฐ  อินทรเจริญ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม แจ้งกับประชาชนที่ไปร่วมฟังการปราศรัยย่อยในครั้งว่า พลเอกประวิทย์  วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ สนับสนุน นายชูเกียรติ  จีนาภักดิ์ ผู้สมัครเขต 2 เบอร์ 3 ร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นตนเองในฐานะที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา จะช่วยผลักดันโครงการต่างตามที่ นายชูเกียรติ ได้ไปพบกับปัญหาต่างในขณะเดินพบประชาชนทุกครัวเรือน ได้พบเจอมา เมื่อเลือกนายชูเกียรติ เข้าไปรับใช้แล้วโครงการต่างๆ ที่จะให้กับประชาชนในพื้นที่ได้เกิดความอยู่ดีมีความสุข กับทุกครัวเรือน ต้องสำเร็จอย่างแน่นอน ขอให้เลือกคนหนุ่มเข้าไปทำงานรับใช้ท่าน

ในอดีตพรรคพลังประชารัฐ ให้ผู้สมัครเข้าไปแล้ว แต้เขาเหล่านั้นไม่ได้ดูแลประชาชนแต่ละพื้นที่ให้ประชาชนอยู่ดีมีความสุข จึงต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด เพื่อให้คนที่ตั้งใจทำงานรับใช้ประชาชนได้อย่างแท้จริง


ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา   ไหลวารินทร์ - รายงาน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...