ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
สรรพากรเตือนยื่นภาษีเท็จติดคุก7ปีปรับ200,000บ.
12 มี.ค. 2566

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มีมิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนให้ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่เป็นเท็จเพื่อขอคืนเงินภาษี โดยมิจฉาชีพทำหน้าที่รวบรวมเลขบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อนำมายื่นแบบภาษีและขอคืนเงินภาษีอันเป็นเท็จให้ และขอเงินส่วนแบ่งเป็นค่าดำเนินการ รายงานข่าวจากกรมสรรพากร แจ้งว่า หากระบบของกรมตรวจพบการขอคืนเงินภาษีที่ทุจริต นอกจากจะถูกระงับการคืนเงินและเรียกให้นำส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มแล้ว ยังถูกขโมยข้อมูลส่วนบุคคลด้วย เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด เลขบัตรประชาชน เลขเลเซอร์หลังบัตร เบอร์โทร ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปสวมรอยทำธุรกรรมทางการเงินได้ มากไปกว่านั้น การขอคืนภาษีโดยทุจริต มีความผิดตามมาตรา 37 แห่งประมวลรัษฎากร มีโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี และปรับสูงสุดถึง 200,000 บาท ทั้งนี้ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อและอย่าเข้าร่วมกับมิจฉาชีพเด็ดขาด หากเข้าร่วมขบวนการยื่นภาษีเท็จ อาจตกเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดอาญา ซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับได้ 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 1 - 15 พฤษภาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
21 เม.ย. 2568
“กีฬา ... กีฬา ... เป็นยาวิเศษ” ส่วนหนึ่งของคำประพันธ์ที่นำมาร้องกันในสมัยก่อน หรืออาจจะร่วมถึงในยุคสมัยนี้ด้วยก็คงไม่ผิด และแน่นอนความหมายของนั้นก็คือ การเล่นกีฬา การออกกำลังกายนั้น มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายเปรียบเสมือนเกราะป้องกันโรคภัยของเรานั่นเอ...