4 องค์กรรัฐผนึกพลังต่อยอด ขยายผลงานวิจัยสู่ปฏิบัติการขจัดความยากจน และเสริมความแข็งแกร่งแก่เศรษฐกิจฐานราก สร้างความมั่นคง ยั่งยืนแก่ระบบเศรษฐกิจประเทศ
ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กล่าวถึงพัฒนาการของการสานพลังภาคีเครือข่ายต่อยอดขยายผลงานวิจัยระดับพื้นที่ไปสู่รูปธรรมของการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากและขจัดความยากจนได้อย่างยั่งยืน โดยชี้แจงว่า บพท. ได้รับการตอบสนองความร่วมมืออย่างดียิ่งจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) และองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ในการบูรณาการการทำงาน โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก และแก้ปัญหาความยากจน
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) และประธานกรรมการบริหาร สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า การที่ บพท.-อพท.-พอช.-สสว.เห็นพ้องที่จะบูรณาการทำงานร่วมกัน บนเป้าหมายร่วมคือการขจัดความยากจนและเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก นับเป็นนิมิตรหมายที่ดีมาก
“ผมมั่นใจว่าการที่ 4 องค์กรมาเชื่อมโยงการทำงานเข้าด้วยกัน โดย บพท.ใช้จุดแข็งด้านการวิจัยพัฒนาเชิงพื้นที่ อพท.ใช้จุดแข็งด้านการท่องเที่ยว พอช.ใช้จุดแข็งด้านการพัฒนาองค์กรชุมชน และ สสว.ใช้จุดแข็งด้านเงินทุน ด้านการพัฒนาผู้ประกอบการ ตลอดจนการสร้างโอกาสทางการตลาด จะทำให้ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำได้รับการขจัดออกไป”
ดร.กิตติ ให้รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับแนวทางการดำเนินงานร่วมกันของ บพท.-อพท.-พอช.-สสว.ว่าจะเป็นไปตามแนวทางดังต่อไปนี้
“สำหรับกลไกขับเคลื่อนการบูรณาการการทำงานร่วมกัน ทุกฝ่ายเห็นพ้องกันในการจัดตั้งคณะทำงานร่วม ซึ่งจะได้มีการกำหนดพื้นที่ทำงานเชิงยุทธศาสตร์ร่วมกันใน 3 ลักษณะ ได้แก่ พื้นที่ที่มีการกระจุกตัวของครัวเรือนยากจน พื้นที่ที่มีมหาวิทยาลัยในพื้นที่เป็นตัวกลางเชื่อมโยงกับภาคีทุกภาคส่วนในพื้นที่ และพื้นที่ที่มีระบบข้อมูลเป็นที่ยอมรับได้ ในการเชื่อมโยงความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายไปร่วมกันพัฒนาขึ้นเป็นพื้นที่ต้นแบบระดับจังหวัด ทั้งนี้คณะทำงานร่วม จะมีการประชุมปรึกษาหารือร่วมกันอย่างน้อย 2 เดือนต่อครั้ง”
ดร.กิตติ กล่าวว่า ภายใต้แนวทางและกลไก กระบวนการทำงานร่วมกันของ พอช.-อพท.-สสว. และบพท.ดังกล่าว เชื่อมั่นว่าจะสามารถตอบโจทย์การส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเพื่อการแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำที่มุ่งผลสำเร็จต่อการยกระดับเศรษฐกิจครัวเรือนยากจนได้อย่างแน่นอน