ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
นริศสั่งแก้ที่ดินทำกิน/ไฟป่า/ฝุ่นละออง/จ่ายค่าน้ำ
15 ก.พ. 2566

นายนริศ ขำนุรักษ์ รมช.มหาดไทย และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.พัทลุง เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมติดตามการขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุม โดยนายนริศ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการกล่าวชื่นชมการปฏิบัติงานของทีมงานอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ที่มีการบูรณาการเพื่อช่วยเหลือเด็กที่ประสบภัยตกลงไปในบ่อน้ำบาดาล ความลึก 15 เมตร จนประสบความสำเร็จสามารถช่วยเหลือเด็กออกมาได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นหนึ่งในการขับเคลื่อนงานบำบัดทุกข์บำรุงสุขในระดับพื้นที่ตามนโยบายรัฐบาล นอกจากนี้ยังมีการกำชับผู้บริหารหน่วยงานในส่วนภูมิภาคเรื่องการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด รวมทั้งการออกใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กระทรวงมหาดไทยไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยหากพบการกระทำผิดต้องดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่มีการละเว้น
 
นายนริศ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนั้น ที่ประชุมได้กำชับให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยให้มีการตรวจสอบเครื่องมือ อุปกรณ์ รวมทั้งการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุเพื่อรับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้า รวมทั้งต้องมีการตรวจสอบอาคาร และสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่เสี่ยงเพื่อลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน
 
นอกจากนี้ ตนได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเพิ่มความถี่ในการจัดประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทช.จังหวัด) เพื่อเร่งสำรวจ ตรวจสอบ จัดทำข้อมูล และแก้ปัญหากรรมสิทธิ์ที่ดินทำกินให้กับประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ให้มีการควบคุมดูแลปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่อย่างเร่งด่วน และดูแลเรื่องการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน รวมทั้งได้สั่งการให้การประปานครหลวง เร่งศึกษาแนวทางการลดต้นทุนในการผลิตน้ำประปา เพื่อลดต้นทุนการผลิต และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนอีกทางหนึ่งด้วย

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...