ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สังคม / บุคคล ย้อนกลับ
เกิดปะทะในเมืองพญาตองซู เพื่อนบ้านห่างชายแดนไทยเพียง 800 เมตร
24 ม.ค. 2566

เกิดปะทะในเมืองพญาตองซู เพื่อนบ้านห่างชายแดนไทยเพียง 800 เมตร เสียงปืนใหญ่ถล่มต่อเนื่อง แสงเปลวเพลิงสูงกว่าตึก 6 ชั้น ทหารชุด ฉก.ลาดหญ้าเตรียมพร้อมรับสถานการณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 23 ม.ค. 2566 ได้เกิดเหตุ กองกำลังไม่ทราบฝ่ายได้ทำการเผาสถานที่ราชการในเมืองพยาตองซู ประเทศเมียนมา ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านพระเจดีย์สามองค์ จำนวนทั้งหมด 5 แห่ง ด้วยกันซึ่งส่วนใหญ่ไปสถานที่ราชการพลเรือน เช่นที่ดินอำเภอ การคมนาคม ทหารสื่อสาร โดยเบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายออกมา  นอกจากนั้นยังมีเสียงปืน และระเบิดดังอยู่เป็นระยะๆ 

ขณะที่นายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอำเภอสังขละบุรี ได้มอบหมายให้นาย ดำรงรัตน์ สุภาพัฒน์ ปลัดหัวหน้าฝ่ายป้องกัน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ อส.ลงพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์  หมู่ที่ 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อติดตามสถานการณ์ และรักษาความปลอดภัยและลาดตระเวน รอบหมู่บ้าน ร่วมกับ ทหาร ตำรวจ และ ตชด.  ซึ่งสถานการณ์นี้มองเห็นแสงไฟได้ชัดเจนจากชายแดนฝั่งไทย เนื่องจากจุดที่เกิดเหตุไฟไหม้ห่างจากชายแดนไทยออกไปเพียง 800 - 900 เมตร นอกจากนั้นยังมีเสียงระเบิดและเสียงปืนดังเป็นระยะๆ ขณะที่มั่นในเมืองพยาตองซู มาตกอยู่ในความเงียบ ด้าน พันเอก ธัชเดช อาบัวรัตน์ รอง. ผบ. ฉก.ลาดหญ้า ได้สั่งการให้ทหารเตรียมพร้อม และคอยลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน พร้อมขอความร่วมมือให้ประชาชนที่มาสังเกตการณ์บริเวณชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ เดินทางออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย และให้ทหารติดตาม รายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ล่าสุดเมื่อสักครู่ จุดที่ 1 คาดว่าที่ว่าการอำเภอ อำเภอพญาตองซู ได้รับข่าวจากแหล่งข่าวว่า ทมม.พัน.284 ได้ทำการยิงเครื่องยิงลูกระเบิดหนัก ขนาด 82 มม. เข้ามายัง ตลาด อ.พญาตองซู โดยอยู่ฝั่งไทยเห็นแสงเพลิงลุกท่วมสูงกว่าตึก 6 ชั้น และเสียงปืนใหญ่ ยังยิงต่อเนื่องตลอดเวลา ทหารไทยเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ หากมีประชาชนหนีตายเข้ามายังฝั่งไทย ก็จะต้องช่วยเหลือให้ที่พักพิงต่อไป

ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา   ไหลวารินทร์

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...