ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
บิ๊กตู่สั่งตรึงค่าไฟ4.72บ./หน่วย/มค.-เม.ย.66
26 พ.ย. 2565

คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน มีมติให้ตรึงค่าไฟงวดเดือนมกราคม-เมษายน 2566 เท่ากับงวดปัจจุบันเดือนกันยายน -ธันวาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย จากที่ก่อนหน้านี้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กำลังพิจารณา 3 กรณีที่จะขึ้นค่าไฟงวดเดือนมกราคม-เมษายน 2566 โดยกรณีที่ 1 ค่าไฟเฉลี่ยจะอยู่ที่ 6.03 บาทต่อหน่วย กรณีที่ 2 อยู่ที่ 5.70 บาทต่อหน่วย และกรณีที่ 3 อยู่ที่ 5.37 บาทต่อหน่วย

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงผลการประชุม กพช. ที่มีนายกฯเป็นประธานว่า กพช.พิจารณาสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างรัสเซียและยูเครนยังไม่มีข้อยุติส่งผลให้ราคาพลังงานโลกมีความผันผวนและมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างรุนแรง โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ (แอลเอ็นจี) ยังคงทรงตัวระดับสูงคาดการณ์ระดับ 25-33 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ประกอบกับเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวปลายปี 2565 ถึงต้นปี 2566 ทำให้ราคาพุ่งเร็ว สัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 21 เหรียญ แต่วันที่ 25 พฤศจิกายนขยับเป็น 30 เหรียญ นอกจากนี้การผลิตก๊าซ จากแหล่งอ่าวไทยและเมียนมาลดลง จึงจำเป็นต้องนำเข้าแอลเอ็นจีเพิ่มขึ้น

“ดังนั้น เพื่อช่วยเหลือประชาชนช่วงวิกฤตพลังงานดังกล่าว กพช.จึงเห็นชอบ 3 แนวทางลดภาระค่าไฟฟ้างวดแรกของปี 2566 (มกราคม-เมษายน) โดยให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ตรึงค่าไฟไว้เท่าเดิม (งวดกันยายน-ธันวาคม 2565) ในอัตรา 4.72 บาทต่อหน่วย” นายสุพัฒนพงษ์กล่าว

นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า หลายคนต้องการให้ทำมาตรการระยะยาวตลอดปี แต่ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะตอนนี้เหมือนฝนตกหนักขับรถอยู่ทัศนวิสัยไม่ดี จึงต้องมองระยะใกล้ก่อน แต่เชื่อว่าตั้งแต่พฤษภาคมเป็นต้นไป สถานการณ์จะดีขึ้น ส่วนของขวัญปีใหม่กระทรวงพลังงาน เบื้องต้นคงเป็นมาตรการคล้ายๆเดิม อาทิ ตรึงราคาน้ำมันช่วงปีใหม่ของ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า 3 แนวทางลดค่าไฟ ประกอบด้วย 1.การบริหารก๊าซธรรมชาติเพื่อการผลิตไฟฟ้า จัดสรรก๊าซจากอ่าวไทยหลังโรงแยกก๊าซ เพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยก่อน ในปริมาณที่ไม่เพิ่มภาระอัตราค่าไฟฟ้าจากปัจจุบัน มอบหมายให้ กกพ.ไปคำนวณอัตราค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที) สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยเพื่อคงค่าไฟในอัตราเท่าเดิม 4.72 บาทต่อหน่วย รวมทั้งคงค่าไฟอัตรา 3.7 บาทต่อหน่วยสำหรับกลุ่มเปราะบางใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน กลุ่มใช้ 301-500 หน่วยต่อเดือน ได้ส่วนลด 15% และ 75% และมอบหมายให้กกพ.เร่งศึกษาการจัดทำอัตราค่าไฟฟ้ากลุ่มประเภทบ้านอยู่อาศัยที่มีการใช้ไฟฟ้ามากกว่า 500 หน่วยต่อเดือนขึ้นไป เพื่อส่งเสริมการประหยัดพลังงาน

นายกุลิศกล่าวว่า 2.กพช.ขอความร่วมมือจาก บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) จัดสรรรายได้จากการดำเนินธุรกิจโรงแยกก๊าซ ประมาณ 1,500 ล้านบาทต่อเดือน ระยะเวลา 4 เดือน (ตั้งแต่มกราคม-เมษายน 2566) มาช่วยสนับสนุนในรูปแบบที่เหมาะสมเพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้า แบ่งการจัดสรร ดังนี้ ส่วนที่ 1 เป็นส่วนลดราคาค่าก๊าซ ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือลดค่าไฟฟ้าแก่กลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟฟ้าต่ำกว่า 500 หน่วยต่อเดือน มอบหมายให้ กกพ.กำกับดูแลการดำเนินการต่อไป ส่วนที่ 2 เป็นส่วนลดราคาก๊าซ สำหรับโรงแยกก๊าซ ในการคำนวณต้นทุนก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) เพื่อเป็นเชื้อเพลิง

นายกุลิศกล่าวว่า 3.กพช.มีมติเห็นชอบให้ ปตท.ร่วมกับกฟผ. บริหารจัดการผลกระทบของราคาก๊าซธรรมชาติต่อค่าไฟฟ้า โดยให้ ปตท.คิดราคาก๊าซ สำหรับโรงไฟฟ้าของ กฟผ. โรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (ไอพีพี) และโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (เอสพีอี) ในระดับราคาเดียวกับที่ใช้ประมาณการค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าเอฟที ตั้งแต่เดือนที่ กพช.มีมติเป็นต้นไป

“มติกพช.ครั้งนี้ต้องการให้ กกพ.นำ 3 มาตรการไปพิจารณาต้นทุนตลอดจนแนวทางลดค่าไฟสำหรับงวดแรกปี 2566 ที่แนวโน้มสูงขึ้นมาก คาดว่าจะได้ข้อสรุปปลายเดือนนี้ เพราะกกพ.ต้องสรุปแนวทางและประกาศอัตราค่าไฟเพื่อบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2566 เบื้องต้นขณะนี้ยังไม่สามารถระบุตัวเลขค่าไฟที่ลดลงได้ แต่เป้าหมายคือต้องคงค่าไฟให้ประชาชนในช่วงวิกฤตนี้ให้ได้ ขณะเดียวกันขอให้ประชาชนร่วมกันประหยัดพลังงานด้วยเช่นกัน” นายกุลิศกล่าว

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...