ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
ปภ.รายงานน้ำท่วม11จังหวัดประสานช่วยเหลือผู้ประสบภัย
11 ก.ย. 2565

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2565 เวลา 10.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย รายงานยังคงมีสถานการณ์ "น้ำท่วม" 11 จังหวัด รวม 37 อำเภอ 180 ตำบล 881 หมู่บ้านแยกเป็น "น้ำท่วม" จากร่องมรสุมพาดผ่านและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น 8 จังหวัด ได้แก่

  1. เชียงใหม่
  2. ลำพูน
  3. หนองบัวลำภู
  4. ขอนแก่น
  5. ปทุมธานี
  6. สมุทรปราการ
  7. ระยอง
  8. จันทบุรี

"น้ำท่วม" จากผลกระทบพายุหมาอ๊อน 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และปทุมธานี ทั้งนี้ ปภ. ได้ประสานจังหวัดเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังและดูแลผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วม 11 จังหวัด รวม 39 อำเภอ 182 ตำบล 884 หมู่บ้าน แยกเป็น อิทธิพลจากร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก เฉียงเหนือตอนบน และภาคกลางตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง

โดยตั้งแต่วันที่ 4 - 10 ก.ย. 65 มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 28 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แพร่ ลำปาง ลำพูน พะเยา สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สมุทรปราการ สุพรรณบุรี อุทัยธานี ปทุมธานี นนทบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด และ ตรัง รวม 57 อำเภอ 109 ตำบล 398 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,227ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 20 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 8 จังหวัด รวม 24 อำเภอ 64 ตำบล 286หมู่บ้าน ดังนี้

1. เชียงใหม่ เกิดฝนตกหนักน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอจอมทอง อำเภอดอยหล่อ อำเภอกัลยาณิวัฒนา อำเภอสะเมิง และอำเภอสันป่าตอง รวม 11 ตำบล 18 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 10 หลังคาเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

2. ลำพูน เกิดฝนตกหนักน้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ ตำบลน้ำดิบ อำเภอป่าซาง ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

3. ขอนแก่น เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ ตำบลแวงใหญ่ ตำบลบ้านไผ่ ตำบลหนองสองห้อง รวม 3 ตำบล 6หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 10 หลังคาเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

4. หนองบัวลำภู เกิดฝนตกหนักน้ำท่วมขังในพื้นที่ตำบลหัวนา และอำเภอเมืองหนองบัวลำภู บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 3 หลังคาเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

5. ปทุมธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอ ธัญญบุรี อำเภอลำลูกกา และอำเภอเมืองปทุมธานี รวม 3 ตำบล 3 หมู่บ้าน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

6. สมุทรปราการ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางบ่อ อำเภอบางเสาธง และอำเภอบางพลี รวม 11 ตำบล 46 หมู่บ้าน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

7. ระยอง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองระยอง อำเภอแกลง และอำเภอวังจันทร์ รวม 15 ตำบล 110 หมู่บ้าน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

8. จันทบุรี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเขาคิชฌกูฎ อำเภอท่าใหม่ อำเภอนายายอาม อำเภอแก่งหางแมว และอำเภอมะขาม รวม 19 ตำบล 101 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 873 หลังคาเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง

ขณะที่สถานการณ์อุทกภัยซึ่งเป็นผลกระทบจากพายุหมาอ๊อน (MAON) ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการระบายน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ล่าสุดวันนี้ (10 ก.ย.65) ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และปทุมธานี รวม 13 อำเภอ 116 ตำบล 596 หมู่บ้าน ภาพรวมระดับน้ำลดลง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และให้การดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้วได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป

ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับ แจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...