ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สื่อสาร - คมนาคม ย้อนกลับ
ทล.แจงตีเส้นจราจรซิกแซกหวังลดอุบัติเหตุบนท้องถนน
09 ก.ค. 2565

‘กรมทางหลวง’ชี้แจงกรณีตีเส้นจราจรเป็นเส้นซิกแซกไปมาบนพื้นถนนที่จ.ศรีสะเกษ เป็นโครงการนำร่อง หวังยกระดับความปลอดภัยทางคนเดินข้าม เดินหน้าเก็บข้อมูลไปวิเคราะห์ประเมินผลต่อไป

9 ก.ค.2565-รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) ชี้แจงกรณีการตีเส้นจราจรเป็นลักษณะเส้นซิกแซกหยักไปมาบนพื้นถนน บริเวณทางหลวงหมายเลข 2127 ตอน ศิวาลัย – สำโรงเกียรติ บริเวณชุมชน บ.หลักหินใหม่ อ.ขุนหาญ ที่จังหวัดศรีษะเกษ โดยมีจุดประสงค์ร่วมกันหาทางป้องกัน และแก้ไขปัญหา หลังจากก่อนหน้านี้มีการสูญเสียชีวิตของบุคลากรทางการแพทย์ ขณะเดินข้ามถนนใน กทม.

สำหรับการดำเนินการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ซึ่งสาเหตุหลักของกรณีนี้ คือ “ความเร็วของรถ ที่เข้าสู่ทางคนเดินข้าม” และ “การรับรู้ของผู้ขับขี่ล่วงหน้า ว่าจะมีทางข้ามถนน” โดยกรมทางหลวง ได้นำแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ที่ใช้กันในสากล มาทดลองใช้กับทางหลวงขนาด 2 ช่องจราจร ได้แก่

1.เส้นซิกแซก (Zigzag line) ที่เป็นข่าว ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเตือนผู้ขับขี่ล่วงหน้าด้วยสีตีเส้นบนผิวทาง ให้ “ตระหนัก” และ “ลดความเร็ว” ลงก่อนถึงทางคนเดินข้ามซึ่งเป็นรูปแบบที่ใช้กันในสากล เช่น กลุ่มประเทศในยุโรป สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ ออสเตรเลีย เป็นต้น

2.เกาะยืนพักระหว่างการเดินข้าม (Refuge Island) ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่เดินช้าไม่จำเป็นต้องเดินข้ามถนนในครั้งเดียว 3.ชุดป้ายทางข้าม ชนิดสีเหลืองเขียวฟลูออเรสเซนต์ ที่เพิ่มความปลอดภัยให้กับคนเดินข้าม ซึ่งใช้กันแพร่หลายในต่างประเทศ 4.ไฟฟ้าส่องสว่าง ที่ส่องไปที่พื้นทางคนเดินข้ามโดยเฉพาะ และ5รวมถึงการปรับปรุงกายภาพสองข้างทาง เพื่อให้ผู้ขับขี่รับรู้ถึงการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมสู่ช่วงเขตชุมชน

ทั้งนี้ได้ทำเป็นโครงการนำร่อง เป็นที่แรกในทางหลวงขนาด 2 ช่องจราจร บน ทางหลวงหมายเลข 2127 ตอน ศิวาลัย – สำโรงเกียรติ บริเวณชุมชน บ.หลักหินใหม่ อ.ขุนหาญ ที่จังหวัดศรีษะเกษ และทำการเก็บข้อมูลการใช้งาน Before & After Study วิเคราะห์ และประเมินผลในทุกมิติ เพื่อพัฒนา แนวทางการปรับปรุงทางกายภาพ และด้านอื่น ๆ ให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนสูงสุดในการข้ามถนนต่อไป

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...