ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
เฉลิมชัย ชื่นชม อกม. กว่า7หมื่นคนเป็นกำลังสำคัญส่งเสริมการเกษตร
29 เม.ย. 2565

               ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดเวทีเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้อาสาสมัครเกษตรระดับเขต ณ แสนปาล์ม เทรนนิ่ง โฮม อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โดยมีนายธนา ชีรวินิจ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายนวนิตย์ พลเคน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน การจัดทำเวทีเครือข่ายฯในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อยกย่อง เชิดชูเกียรติ และประชาสัมพันธ์ผลงานของอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) ให้มีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน มีระบบการทำงานตามบทบาทหน้าที่ สร้างบทบาทการมีส่วนร่วมในการพัฒนางานส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่ และสามารถเชื่อมโยงกับเครือข่ายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งกำหนดกิจกรรมด้านการเกษตรที่จะดำเนินการ และเกิดเครือข่ายการบริการแก่เกษตรกรในชุมชนได้

                รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนงานอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน ถือเป็นนโยบายหลักของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จะต้องดำเนินการให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม ซึ่งที่ผ่านมาอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน ได้ปฏิบัติงานจัดเก็บรวบรวม และรายงานข้อมูลพื้นฐานด้านการเกษตร ร่วมกับคณะกรรมการหมู่บ้านในการจัดทำแผนพัฒนาการเกษตรระดับหมู่บ้าน ประสานงานในการถ่ายทอดความรู้และการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรในหมู่บ้าน รวมทั้งติดตามสถานการณ์การเกษตรในหมู่บ้าน พร้อมรายงานเหตุการณ์ฉุกเฉินเร่งด่วนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้านได้ช่วยปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ลงพื้นที่เคียงข้างกับเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรในการประชาสัมพันธ์ชี้แจงข้อมูลโครงการเยียวยาเกษตรกรฯ ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร เก็บรวบรวมใบสมัครนำส่งสำนักงานเกษตรอำเภอ เพื่อดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ส่งข้อมูลให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องเกษตรกรด้วยความเรียบร้อย ทั่วถึง และรวดเร็ว จนสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

                สำหรับในปี 2565 กระทรวงเกษตรฯ มีแผนการขับเคลื่อนงานอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน ในด้านการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพ อกม. แลกเปลี่ยนเรียนรู้ตามบทบาทหน้าที่ ในฐานะเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ให้สามารถสนับสนุนงานส่งเสริมการเกษตรและงานตามภารกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้ อกม. มีระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพ เป็นกลไกและมีส่วนร่วมในการพัฒนางานส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่ เชื่อมโยงเครือข่ายการปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าที่และพัฒนาให้เป็นต้นแบบแก่เกษตรกรทั่วไป รวมถึงการสร้างขวัญกำลังใจ สร้างการรับรู้ให้สาธารณชน พร้อมทั้งเผยแพร่ผลงานของ อกม. และยกย่องเชิดชูเกียรติให้แก่อาสาสมัครเกษตร ในฐานะเกษตรกรผู้มีจิตอาสา ให้โอกาสในการแสดงความเป็นผู้นำและเป็นที่เชื่อถือยอมรับของเกษตรกร

                ด้าน นายนวนิตย์ พลเคน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการให้บริการแก่เกษตรกรในระดับพื้นที่ ของหมู่บ้านมาโดยตลอด และมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 16 หน่วยงาน ที่ดำเนินงานด้านอาสาสมัครเกษตร (อกษ.) ในแต่ละสาขาที่หน่วยงานนั้นๆ เป็นผู้รับผิดชอบซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง โดยอยู่ภายใต้ระเบียบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าด้วยการบริหารงานอาสาสมัครเกษตร พ.ศ.2563 และในส่วนของการดำเนินงานอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการนโยบายอาสาสมัครเกษตร ดำเนินการคัดเลือกอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) และแต่งตั้งคณะกรรมการอาสาสมัครเกษตรระดับตำบล อำเภอ และจังหวัด เพื่อกำหนดนโยบาย แนวทางการพัฒนา และขับเคลื่อน

                งานอาสาสมัครเกษตรในพื้นที่ การจัดประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการของคณะกรรมการชุดต่างๆ จึงถือเป็นการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพปัจจุบันกรมส่งเสริมการเกษตร ได้จัดตั้ง อกม. ทั่วประเทศแล้วรวม จำนวน 75,095 ราย โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ได้มุ่งเน้นให้ อกม. ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาทหน้าที่ 5 ข้อ ในระเบียบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าด้วยการบริหารงานอาสาสมัครเกษตร พ.ศ. 2563 อกม. ได้ดำเนินการตามภารกิจดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ตามบริบทของพื้นที่ ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ตามแผนงานของกรมส่งเสริมการเกษตร

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...