ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ย้อนกลับ
เอ้ สุชัชวีร์ หาเสียงชูนโยบายตลาดนัด ขายของได้ทุกวัน
28 เม.ย. 2565

"เอ้ สุชัชวีร์"ลงพื้นที่หาเสียงย่านบางพลัด พร้อม"ชนินทร์ รุ่งแสง" ชี้ตลาดนัดคือหัวใจคนกรุงเทพ ชูนโยบายขายของได้ทุกวัน

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2565 ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 4 พร้อมกับ นายชนินทร์ รุ่งแสง อดีต ส.ส. กทม. และ นายภิญโญ ป้อมสถิตย์ ผู้สมัคร ส.ก. เขตบางพลัด หมายเลข 6 ได้ร่วมกันเดินแนะนำตัวเพื่อขอเสียงสนับสนุนที่ตลาดวัดรวก และทักทายชุมชนตลาดวัดรวก อย่างเป็นกันเอง ซึ่งได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากพี่น้องประชาชนทั้งพ่อค้า แม่ค้า และพี่น้องประชาชนที่มาเดินจับจ่ายซื้อของ

โดย “เอ้ สุชัชวีร์” ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่มารอสัมภาษณ์ว่า ตนมีนโยบายปากท้องชัดเจน ตั้งใจทำให้เศรษฐกิจในชุมชนเฟื่องฟูขึ้น เพราะจากที่เห็นนั้นเฉาไป แต่ตลาดนัดคือหัวใจของคนกรุงเทพฯ ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย จึงตั้งใจมีนโยบายให้พ่อค้าแม่ค้าขายของได้ทุกวัน ทั้ง 7 วันเลย โดย กทม. มีหน้าที่ดูแลความสะอาด ความเรียบร้อย และให้เทศกิจเป็นมิตรกับพ่อค้าแม่ค้า

นอกจากนี้ ยังมีสิ่งที่อยากทำมากก็คือการจัดให้มีก็อกน้ำประปาบริการฟรีทุกพื้นที่ เพราะช่วงนี้ทุกคนต้องล้างมือ พ่อค้าแม่ค้าก็ต้องใช้ และหากเอกชนรายใดเปิดตลาดนัด ถือว่าเป็นการช่วย กทม. ก็สามารถนำมาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้ เพราะถือเป็นการช่วยประชาชนรากหญ้าที่เป็นประชาชนส่วนใหญ่ของ กทม. นอกเหนือจากนั้นยังตั้งใจทำให้ตลาดเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัย จากนโยบาย “อินเทอร์เน็ตฟรี 150,000 จุด” ทั่วกรุงเทพฯ และกล้องวงจรปิดไวไฟ จะทำให้พี่น้องประชาชนสามารถเข้าถึงได้ตลอด 24 ชม. ก็จะทำให้ตลาดนัดน่าเดิน คนเดินก็ปลอดภัย เศรษฐกิจชุมชนก็เฟื่องฟู

ทั้งนี้ “เอ้ สุชัชวีร์” ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กรุงเทพฯ ยังมีปัญหาเรื่องขยะ ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีถังขยะไม่เพียงพอ จึงตั้งจะให้จัดให้มีถังขยะในทุกพื้นที่ และจะต้องมีการจัดเก็บทุกวัน ที่ผ่านมา กทม. ไม่ได้จัดเก็บขยะได้ทุกวันเนื่องจากรถขยะมีขนาดไม่เหมาะสม จึงตั้งใจจะให้มีรถขยะขนาดครึ่งตัน – 1 ตัน เพื่อให้สามารถจัดเก็บขยะได้ถี่ขึ้นและทั่วถึงมากขึ้น

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...