เปิดผลโพลเจาะลึกความคิดคนกรุงเทพฯและปริมณฑล“หวังอะไร ในปี 2565”สุดอึ้งพบกว่า 70% อธิษฐานให้ได้รัฐบาลชุดใหม่มากกว่าถูกหวย เหตุมองสภาพเศรษฐกิจแย่ลงกว่าเดิมและนักการเมืองคืออุปสรรคใหญ่ของประเทศไทยยิ่งกว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังแพร่ไม่หยุด
นายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ ผู้อำนวยการ อปท.นิวส์โพล และ รศ.ดร.ธนสุวิทย์ ทับหิรัญรักษ์ ที่ปรึกษาด้านวิชาการ ร่วมแถลงว่าในโอกาสที่ประเทศไทยกำลังจะเปลี่ยนผ่านสู่ศักราชใหม่ 2565 หลังจากที่ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตสะสมมากกว่า 21,000 ราย ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ การจ้างงาน รายได้ของประชาชน หนี้สินที่เพิ่มพูน ตลอดจนการใช้ชีวิตวิถีใหม่ที่ต้องมีหน้ากากอนามัยเป็นอวัยวะชิ้นที่ 33 นั้น “อปท.นิวส์ โพล”ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจำนวน 1,469 ราย โดยการเก็บข้อมูลทางออนไลน์ได้ข้อสรุปดังนี้
พบว่ากลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ร้อยละ 58เป็นเพศหญิง รองลงมาร้อยละ 39คือ เพศชาย และไม่ระบุเพศร้อยละ 3จากข้อสังเกตการแจกแบบสอบถามที่ผ่านมาจะพบว่าผู้หญิงมีความตื่นตัวการให้ข้อมูลเป็นไปในทางบวกมากขึ้นและมีแนวโน้มพฤติกรรมแสดงความคิดเห็นมากขึ้น
อายุของกลุ่มตัวอย่างพบว่ามีอายุอยู่ระหว่าง 20-30 ปี จำนวนร้อยละ58รองลงมามีอายุอยู่ต่ำกว่า 20 ปี จำนวนร้อยละ 19อายุ 51 ปีขึ้นไปร้อยละ 9 อายุ 41-50 ปีร้อยละ 8 ที่เหลืออีกร้อยละ 6 เป็นกลุ่มอายุ 31-40 ปี
ด้านการศึกษาของผู้ตอบแบบสำรวจพบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 67กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี รองลงมาร้อยละ23มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรีและร้อยละ 10 มีการศึกษาสูงกว่าระดับปริญญาตรี
ทางด้านอาชีพของกลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถาม พบว่าเป็นกลุ่มที่กำลังศึกษามีจำนวนถึงร้อยละ65รองลงมาร้อยละ 11 เป็นกลุ่มพนักงานบริษัทเอกชน ร้อยละ 10 ประกอบการค้าขายหรือธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 7 เป็นข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจและร้อยละ 5 รับจ้างทั่วไป
ส่วนรายได้ของกลุ่มตัวอย่าง พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 58มีรายได้ต่ำกว่า10,000 บาท รองลงมาร้อยละ 21มีรายได้ในระดับ10,001 – 20,000 บาท ร้อยละ 14 มีรายได้เกิน 30,000 บาทขึ้นไป และร้อยละ 7 มีรายได้อยู่ในระดับ 20,001-30,000 บาท
เมื่อสอบถามความคิดเห็นถึงสภาพเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ว่าเป็นอย่างไร ผู้ให้ข้อมูลกลุ่มใหญ่ร้อยละ83ตอบว่าเศรษฐกิจแย่ลงกว่าเดิม มีผู้เห็นแตกต่างร้อยละ 8ตอบว่ากำลังฟื้นตัวเริ่มดีขึ้น ร้อยละ 7ตอบว่าทรงตัวเหมือนเดิม และร้อยละ 2 ที่ไม่ทราบตามลำดับ
ถามว่าอยากให้ปัญหาใดจบลงในปี 2564 ผู้ให้ข้อมูลมากที่สุดจำนวนร้อยละ 56อยากให้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 จบลง รองลงมาร้อยละ 22อยากให้ความขัดแย้งทางการเมืองจบลง นอกนั้นร้อยละ 6 อยากให้หนี้สินที่มีอยู่หมดไป ร้อยละ 5 อยากให้ปัญหาค่าครองชีพสูงจบ ร้อยละ 3 อยากให้ปัญหาน้ำมันราคาแพงหมดไป นอกนั้นอยากให้ปัญหาในครอบครัวและปัญหาหัวใจได้รับการแก้ไข
คำถามสำคัญที่ว่า “คาดหวังอะไรในปี 2565” โดยให้อธิษฐานได้ 3 ข้อพบว่าผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 70.7คาดหวังได้รัฐบาลชุดใหม่รองลงมาร้อยละ53.4 อยากให้เศรษฐกิจจะฟื้นตัว ร้อยละ 37.2 อยากได้ชีวิตที่ดีกว่าเดิม ร้อยละ 33.4 อยากให้สุขภาพดี(หายจากโรคภัย,ปลอดโรค) ร้อยละ 24.7 อยากหมดภาระหนี้สิน ร้อยละ 18.7 อยากถูกหวย ร้อยละ 16.7 อยากได้งานทำ,ได้งานใหม่หรือเงินเดือนขึ้น
ถามว่าเรื่องใดจะเป็นโอกาสทองของประเทศไทยในปี 2565 ผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 44ตอบว่า ด้านการท่องเที่ยวจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง รองลงมาร้อยละ 32 ตอบว่าการค้าออนไลน์ขยายตัว ร้อยละ 10เชื่อว่าการส่งออกสินค้าสู่ตลาดโลกเติบโต ร้อยละ 9 คาดว่าการลงทุนจากต่างประเทศจะเพิ่มมากขึ้น
สุดท้ายถามว่า ท่านคิดว่าอะไรคืออุปสรรคใหญ่ของประเทศไทยในปี 2565พบว่ากลุ่มใหญ่สุดร้อยละ 41ตอบว่า “นักการเมือง” รองลงมาร้อยละ 28ระบุโรคโควิด -19 ร้อยละ 23มองว่าอุปสรรคของประเทศคือการคอร์รัปชั่นในวงราชการ และอื่นๆมองปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด เทคโนโลยีที่ไม่ทันสมัยรวมถึงปัญหาการจราจร
โดยสรุปแล้วกลุ่มเยาวชนไทยเพศหญิงมีความตื่นตัวการในการแสดงความคิดเห็นมากขึ้น ผู้ให้ข้อมูลจำนวนมากมีความรู้สึกว่าเศรษฐกิจแย่ลงกว่าเดิมโดยเฉพาะการเกิดปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ( การสำรวจอยู่ช่วงการเกิดข่าวไวรัสสายพันธุ์ใหม่โอไมครอน)และภายในประเทศยังคงเกิดปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองต่อเนื่องมานาน
ผลสำรวจความคาดหวังสูงสุดของคนกรุงเทพฯและปริมณฑลในปี 2565 คืออยากได้รัฐบาลชุดใหม่โดยสิ่งที่จะตามมาคือเศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัว จะส่งผลให้ชีวิตจะดีขึ้นหมดภาระหนี้สิน ส่วนโอกาสทองของประเทศไทยในปี 2565 เชื่อว่าการท่องเที่ยวจะกลับมาเติบโตเป็นเครื่องยนต์หลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง โดยการค้าออนไลน์และการส่งออกสินค้าสู่ตลาดโลกมีแนวโน้มเติบโต อย่างไรก็ตามผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่เชื่อว่าอุปสรรคใหญ่ของประเทศไทยคือนักการเมืองที่ส่งผลร้ายยิ่งกว่าไวรัสโควิด -19