ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คุณภาพชีวิต ย้อนกลับ
ม.33 รอบสอง 27-28 ก.ย.นี้ 3.02 ล้านรายรอเงินเข้า 2.5 พันบาท
26 ก.ย. 2564
สำนักงานประกันสังคม เริ่มโอนเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตน มาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ใน 29 จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือสีแดงเข้ม ใน 9 ประเภทกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชน ในช่วง 20-28 ก.ย.64 มีทั้งกลุ่มที่ได้รับครั้งแรก รับรอบ 2 และรับรวดเดียว (รอบ1+2) โดยวันที่ 27-28 ก.ย.64จะโอนเงินเยียวยาให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม ที่ประกาศล็อกดาวน์ 2 เดือนคือ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา จำนวน 2,000,000 คน รอบที่ 2 อีกคนละ 2,500 บาท สปส.จะจ่ายตามลำดับเลขบัตรประชาชนตามไทม์ไลน์ ดังนี้ 1.วันที่ 20 กันยายน 2564 โอนเงินเยียวยาให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 ในพื้นที่ 16 จังหวัดสีแดงเข้ม ประกอบด้วย นครราชสีมา ระยอง ราชบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ลพบุรี เพชรบูรณ์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี ตาก อ่างทอง นครนายก สมุทรสงคราม และสิงห์บุรี (ที่ขึ้นทะเบียนใหม่) และจ่ายเงินสมทบเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ระหว่างวันที่ 4-24 สิงหาคม 2564 จำนวน 1,935,325 คน วงเงินคนละ 5,000 บาท 2.วันที่ 21 กันยายน 2564 โอนเงินเยียวยาให้ผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่ประกาศล็อกดาวน์ 2 เดือน ในพื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม คือ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา จำนวน 1,164,382 คน รอบที่ 2 อีกคนละ 5,000 บาท 3.วันที่ 22 กันยายน 2564 โอนเงินเยียวยาให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 รอบที่ 2 ในพื้นที่ 13 จังหวัด ที่ประกาศล็อกดาวน์ 2 เดือน คือ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา จำนวน 2,000,000 คน อีกคนละ 5,000 บาท 4.วันที่ 23 กันยายน 2564 โอนเงินเยียวยาให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 รอบที่ 2 ในพื้นที่ 13 จังหวัด ที่ประกาศล็อกดาวน์ 2 เดือน คือ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา ที่เหลืออีก จำนวน 1,953,767 คน อีกคนละ 5,000 บาท 5.วันที่ 27 กันยายน 2564 โอนเงินเยียวยาให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่ 13 จังหวัด ที่ประกาศล็อกดาวน์ 2 เดือน คือ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา จำนวน 2,000,000 คน รอบที่ 2 อีกคนละ 2,500 บาท 6.วันที่ 28 กันยายน 2564 โอนเงินเยียวยาให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่ 13 จังหวัด ที่ประกาศล็อกดาวน์ 2 เดือน คือ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา จำนวน 1,017,296 คน รอบที่ 2 อีกคนละ 2,500 บาท 7.วันที่ 28 กันยายน 2564 โอนเงินเยียวยาให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 ในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา (ที่ขึ้นทะเบียนใหม่) และจ่ายเงินสมทบเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ระหว่างวันที่ 4-24 สิงหาคม 2564 จำนวน 356,328 คน จะได้รับเยียวยา รวม 2 รอบ คนละ 10,000 บาท สำหรับผู้ประกันตนที่ยังไม่ได้รับสิทธิให้รีบดำเนินการผูกพร้อมเพย์ธนาคารกับบัตรประชาชนให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ ในกรณีมีผู้ประกันตนที่ตกหล่น และอยู่ในพื้นที่ได้รับการเยียวยา แต่ไม่ได้รับเงินเยียวยาให้ผู้ประกันตนสามารถยื่นแบบทบทวนสิทธิ โดยผู้ทบทวนสิทธิสามารถดาวน์โหลดเอกสารแบบคำขอทบทวนสิทธิเยียวยาได้ที่ www.sso.go.th พร้อมกรอกแบบ ลงลายมือชื่อ ระบุเลขบัตรประชาชนให้ชัดเจน หรือแนบสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบเสร็จ สลิปชำระเงินสมทบ (ถ้ามี) พร้อมหมายเลขโทรศัพท์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับได้ นำแบบที่กรอกครบถ้วนแล้วส่งมาทางไปรษณีย์ลงทะเบียนถึง สปส.ที่สะดวก 29 จังหวัดสีแดงเข้ม (ยึดวันประทับตามไปรษณีย์เป็นสำคัญ) ทั้งนี้เพื่อลดการเดินทางมาติดต่อยัง สปส.ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ได้ตั้งแต่วันนี้-31 ตุลาคม 2564 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 ให้บริการไม่เว้นวันหยุดราชการตลอด 24 ชั่วโมง ขั้นตอนการเช็กสิทธิ์ รับเงินเยียวยาดังนี้ 1.เข้าสู่เว็บไซต์ www.sso.go.th 2.เลือกคลิกแถบตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยาฯ ผู้ประกันตน ม.33 ม.39 และ ม.40 3.เข้าหน้าตรวจสอบสถานะสิทธิโครงการเยียวยาผู้ประกันตน กรอกเลขประจำตัวประชาชน และกรอกรหัสให้ตรงกับรูปภาพ 4.เว็บไซต์แสดงผลการได้รับสิทธิ์
หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...