ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
“แม็คโคร” 32 ปี เคียงข้างผู้ประกอบการไทยในทุกวิกฤต คู่คิดธุรกิจนิวนอร์มอล ฝ่าฟันทุกอุปสรรคไปด้วยกัน
13 ส.ค. 2564

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ฉลองครบรอบ 32 ปี ร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19 เดินหน้าช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย SME และ เกษตรกร ส่งต่อกำลังใจอย่างต่อเนื่อง ย้ำคู่คิดธุรกิจในทุกวิกฤต เน้นออกแบบกิจกรรมการตลาด  ต่อยอดผู้ประกอบรายย่อยพัฒนาและเป็นช่องทางกระจายผลผลิตจากเกษตรกรท้องถิ่น พร้อมเข้มมาตรการป้องกันขั้นสูงสุดในทุกช่องทาง ก้าวผ่านอุปสรรคใหญ่ไปด้วยกัน

 

นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2564 ที่แม็คโคร ครบรอบ 32 ปีในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย นับว่าเป็นปีแห่งความยากลำบากที่เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและการใช้ชีวิตของลูกค้าผู้ประกอบการ ร้านค้าปลีกรายย่อย ร้านอาหาร หรือแม้แต่คู่ค้าที่เป็นเกษตรกร และเอสเอ็มอี แม็คโครจึงตั้งเป้าหมายการดำเนินงานและจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยเหลือ สนับสนุน และส่งต่อกำลังใจ ให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง สอดคล้องกับการใช้ชีวิตวิถีใหม่ โดยเน้นการออกแบบกิจกรรมการตลาดที่ช่วยให้ผู้ประกอบรายเล็กอยู่รอดได้ และเติบโตอย่างยั่งยืน มุ่งมั่นสรรหาสินค้าคุณภาพในราคาขายส่ง เพื่อลดค่าครองชีพให้กับประชาชน พร้อมเป็นกำลังใจให้ทุกคนก้าวผ่านวิกฤตที่เกิดขึ้นและก้าวต่อไปให้ได้

 

ช่วงปีที่ผ่านมา แม็คโครได้ดำเนินการโครงการต่างๆ มากมาย เพื่อสนับสนุนลูกค้าและชุมชน อาทิ

 

·       แม็คโคร ส่งมอบสิ่งของจำเป็นแก่การดำรงชีพ ให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวมถึง สนับสนุนอุปกรณ์และสินค้าเพื่อการดูแลผู้ป่วย ให้แก่โรงพยาบาลสนาม และโรงพยาบาล ชุมชนที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศกว่า 250 แห่ง

·      โครงการแม็คโครมิตรแท้โชห่วย ที่ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 14  ซึ่งได้ช่วยพัฒนาร้านค้าปลีกรายย่อยไปแล้วเกือบ 70,000 ร้านค้า ในปีนี้เรายังสร้างโมเดล Smart Shohuay  ภายใต้คอนเซ็ปต์มิตรแท้ชุมชน ชี้แนะเทคนิคการดำเนินธุรกิจค้าปลีกรายเล็กให้อยู่รอดในทุกสถานการณ์ ผ่านการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่และการต่อยอด เพิ่มเติม บริการเสริม ให้ร้านโชห่วยดึงดูดลูกค้าเข้าร้านได้มากขึ้น

·       โครงการแม็คโครเคียงข้างเกษตรกรไทย สู้ภัยโควิด รับซื้อสินค้าเกษตรจากเกษตรกรรายย่อยที่ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายรับซื้อเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนหน้า หรือประมาณ 204,000 ตัน ในปี 2564

·   โครงการเปิดพื้นที่ฟรีบริเวณหน้าสาขาให้ผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อย มีสถานที่นำอาหารกล่องมาขายและเปิดบริการฟู้ดดิลิเวอรี่ให้แก่ผู้บริโภคทั่วไป ที่แม็คโคร 83 สาขา โดยสามารถช่วยเหลือร้านอาหารรายย่อยได้กว่า 1,300 ร้านค้า พร้อมชูแม็คโครโฮเรก้า อคาเดมี (MHA) หน่วยงานที่ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและชี้แนะการบริหารจัดการร้านอาหาร เพื่อเพิ่มรายได้ในยามที่ธุรกิจร้านอาหารประสบปัญหาอย่างหนัก

·       เน้นย้ำการยกระดับมาตรฐานป้องกันการแพร่ระบาด โดยแม็คโครได้รับมาตรฐานสถานประกอบการปลอดภัย ป้องกันโควิด-19 ‘THAI STOP COVID Plus’ ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และออกมาตรการเสริมจากแนวปฏิบัติหลักของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง

·       ในด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม แม็คโครประกาศเจตนารมณ์ตั้งเป้าเป็นองค์กรสีเขียว ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จนเป็นองค์กรคาร์บอนสมดุลในปี 2573 ซึ่งเป้าหมายดังกล่าว จะดำเนินการผ่านโครงการต่างๆ อาทิ การติดตั้งแผงโซลาร์ผลิตไฟฟ้าบนหลังคาสาขา, ประกาศหยุดขายภาชนะโฟมบรรจุอาหารแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งทุกสาขาทั่วประเทศภายในสิ้นปี 2564 และโครงการ “เปลี่ยนขวดเปล่าเป็นประโยชน์” เชิญชวนพนักงานและลูกค้าประชาชนเก็บขวดน้ำพลาสติกเปล่า เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการ upcycle และผลิตเป็นเสื้อยูนิฟอร์มของพนักงาน และชุด PPE ส่งมอบให้บุคลากรทางการแพทย์

 

“แม็คโครเชื่อว่า ในการดำเนินธุรกิจ เราจะมองเรื่องการสร้างผลกำไรย่างเดียวไม่ได้ แต่จะต้องตอบโจทย์ของสังคมและช่วยให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนเติบโตไปด้วยกัน ตลอด 32 ปี ที่ผ่านมา เรายืนหยัดอยู่เคียงข้างผู้ประกอบการรายย่อย ทั้งร้านโชห่วย ร้านอาหาร คู่ค้าที่เป็นธุรกิจ SMEs เกษตรกรรายย่อย ตลอดจนเป็นแหล่งจำหน่ายอาหารปลอดภัย ที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนและสังคมไทยมาตลอด 32 ปี นอกจากนี้เรายังมุ่งเน้นการปลูกจิตสำนึกในการพัฒนาสังคมให้กับพนักงานในทุกระดับ กว่า 20,000 คน เพื่อให้เป็นพลังขับเคลื่อนองค์กร สังคมและโลก ให้พร้อมก้าวไปด้วยกัน” นางศิริพร กล่าว

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...