เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 16 ธ.ค.2568 ที่ห้องประชุม 1001 ชั้น 10 สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาคารทิปโก้ และผ่านระบบประชุมทางไกล นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ครั้งที่ 5/2568
โดยมีน.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม นางจุฬามณี ชาติสุวรรณ ที่ปรึกษารมว.ต่างประเทศ และนางรวีวรรณ ภูริเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นรองประธานการประชุม พร้อมด้วยนายจิรวัฒน์ ระติสุนทร รองเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการ คณะกรรมการ และผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง
ที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าการนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย จำนวน 2 แหล่ง ได้แก่ วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช และพระธาตุพนม จ.นครพนม กลุ่มสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์และภูมิทัศน์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก โดยในปี 2569 จะมีการพิจารณาการนำเสนอวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 48 จัดขึ้นวันที่ 19–29 ก.ค.2569 ที่เมืองปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี
ที่ประชุมได้พิจารณาและเห็นชอบในหลักการให้ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นเครือข่ายพันธมิตรความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค–พันธมิตรเมืองมรดกโลก หรือ RCEP World Heritage Cooperation Alliance ตามคำทาบทามจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งมรดกโลกในระดับภูมิภาค
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังเห็นชอบ (ร่าง) เอกสารการนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม “อนุสรณ์สถาน แหล่งต่างๆ และภูมิทัศน์วัฒนธรรมของเชียงใหม่ นครหลวงของล้านนา” เพื่อขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก ตามมติคณะอนุกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2568 และมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป
สำหรับพื้นที่นำเสนอเชียงใหม่ นครหลวงของล้านนา ครอบคลุมพื้นที่ 383 ไร่ 1 งาน 20 ตารางวา ประกอบด้วย กำแพงเมืองและคูเมืองเชียงใหม่ วัดเชียงมั่น วัดเจดีย์หลวง วัดพระสิงห์ วัดบุปผาราม (วัดสวนดอก) โบราณสถานวัดอุโมงค์สวนพุทธธรรม วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร และโบราณสถานวัดมหาโพธาราม (วัดเจ็ดยอด)
ทั้งนี้ การนำเสนอเอกสารเพื่อขอรับการขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลกของจ.เชียงใหม่ จำเป็นต้องดำเนินการภายในรอบปี 2569 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของการยื่นเอกสารที่ไม่ผ่านขั้นตอนการประเมินขั้นต้น (Preliminary Assessment) จึงต้องเร่งนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีโดยด่วน เพื่อให้ทันกำหนดการจัดส่งเอกสารภายในวันที่ 30 ม.ค.2569
หากพ้นกำหนดดังกล่าว หรือเอกสารถูกศูนย์มรดกโลกส่งกลับ จะต้องเริ่มกระบวนการจัดทำเอกสารใหม่ตามขั้นตอนการประเมินขั้นต้น ซึ่งจะใช้เวลานานไม่น้อยกว่า 3 ปี