กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา นายอำนวย พรหมคล้าย นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ละมอ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง และนางสาวจิราพรรณ์ แสนพันตรี ปลัด อบต.ละมอ ในคดีหักเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ (โบนัส) ของพนักงานส่วนตำบล ลูกจ้างประจำ และพนักงานจ้างของ อบต.ละมอ จำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อประโยชน์สำหรับตนเอง ล่าสุด นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้ลงนามในคำสั่งจังหวัดตรัง ให้ นายอำนวย พรหมคล้าย นายก อบต. ละมอ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง พ้นจากตำแหน่งเป็นทางการแล้ว
อย่างไรก็ดี นายอำนวย พรหมคล้าย มีสิทธิ์โต้แย้งคำสั่ง ยื่นต่อศาลปกครองสงขลา ภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือรับทราบคำสั่ง ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองหรือวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542
คดีนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 9 เสียงเห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้น กรณีกระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือแจ้งแนวทางการเบิกจ่ายเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ (โบนัส) อันมีลักษณะเป็นเงินรางวัลประจำปีแก่พนักงาน ส่วนท้องถิ่น ต่อมาเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลละมอจึงเข้าไปพูดคุยกับนายอำนวย พรหมคล้าย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลละมอ เพื่อขอให้อนุมัติเบิกจ่ายเงินโบนัสดังกล่าว และตกลงว่าจะหักเงินโบนัสให้แก่นายอำนวย พรหมคล้าย จำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ นายอำนวย พรหมคล้าย จึงลงนามอนุมัติให้จ่ายเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ (เงินโบนัส) ของปีงบประมาณ 2555 และปีงบประมาณ 2556 ให้แก่พนักงานส่วนตำบล ลูกจ้างประจำ และพนักงานจ้างขององค์การบริหารส่วนตำบลละมอ จำนวน 34 ราย รวมเป็นเงิน 1,160,540 บาท โดยมีการเขียนเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินโบนัส จำนวน 34 ฉบับ
ปรากฏว่าเช็คแต่ฉบับได้ระบุจำนวนเงินในต้นขั้วเช็คกับในเช็คไม่ตรงกัน ซึ่งในต้นขั้วเช็คระบุจำนวนเงินตามที่ ผู้มีสิทธิ์ได้รับจริง แต่ในเช็ค จำนวน 33 ฉบับ ได้ระบุจำนวนเงินโบนัสที่มีการหักไว้แล้ว จำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ และในเช็ค 1 ฉบับ ได้สั่งจ่ายโดยระบุจำนวนเงินเกินกว่าสิทธิ์ที่ได้รับ เป็นเงิน 108,124 บาท หลังจากนั้น มีการนำเช็คไปขึ้นเงินและนำเงินสดที่ได้จากการหัก 10 เปอร์เซ็นต์ ไปมอบให้แก่นายอำนวย พรหมคล้าย
การกระทำของนายอำนวย พรหมคล้าย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็น เจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือ จูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ฐานเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบ หรือมิชอบด้วยหน้าที่ และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 มาตรา 149 และมาตรา 157 และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 192 และมีมูลความผิด ฐานกระทําการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอํานาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
นายอำนวย พรหมคล้าย เป็นผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รายที่ 3 ในพื้นที่จังหวัดตรัง ที่ถูกสั่งให้พ้นตำแหน่ง ภายหลังถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมาก่อนหน้านี้คือนายธวัช อภิลักษ์นุกูล นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นาเกลือ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง และนายกิตติ กันตังกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กันตังใต้ พ้นจากตำแหน่งเป็นทางการแล้ว หลังจากถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดทางอาญาด้วย