นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โพสต์เฟซบุ๊ก โดยใช้ตรรกะทางการเมืองแบบเคยเพื่อกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์หลายเรื่องว่า ตนจำเป็นต้องชี้แจงให้นายณัฐวุฒิได้เข้าใจในความจริงดังต่อไปนี้ ประการแรก การที่นายณัฐวุฒิกล่าวหาว่า มีคนเคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ไปมีตำแหน่งในรัฐบาลปัจจุบัน แสดงว่า พรรคประชาธิปัตย์รู้เห็นเป็นใจให้มีการรัฐประหารนั้น นายณัฐวุฒิพูดไม่ครบและลืมไปว่า กำลังใส่ความนายเก่าตัวเอง เพราะรัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลนี้ เคยเป็นรัฐมนตรีสมัยรัฐบาลทักษิณด้วย และวันนี้เป็นถึงรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลปัจจุบัน เช่น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายวิษณุ เครืองาม ซึ่งถ้าใช้ตรรกะของนายณัฐวุฒิว่า ถ้าพวกใครมีตำแหน่งในรัฐบาลนี้ แสดงว่าเป็นพวกเดียวกันกับคนยึดอำนาจ ดังนั้นนายทักษิณก็ร่วมสนับสนุนให้มีการยึดอำนาจใช่หรือไม่ นอกจากนี้ กรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หนีออกตามช่องทางธรรมชาติได้ในสมัยรัฐบาลนี้ ก็ยิ่งเป็นการชี้ให้เห็นถึงความน่าจะเป็นพวกเดียวกันอย่างที่นายณัฐวุฒิสงสัยอีกด้วย ดังนั้นนายณัฐวุฒิน่าจะไปถามคนเก่าๆ ของรัฐบาลทักษิณดีกว่าว่า อยู่เบื้องหลังการรัฐประหารหรือไม่ อย่าใช้ตรรกะสภาโจ๊กใส่ความพรรคประชาธิปัตย์แบบไม่มีเหตุผล ประการที่สอง เรื่องราคายางที่นายณัฐวุฒิ กล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เดือดร้อนเรื่องราคายางพารา 3 โลร้อย และทำหนังสือยื่นรัฐบาลแค่ปีละครั้งนั้น ในความเป็นจริงแล้ว อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ได้เรียกร้องมาตลอดทุกช่องทาง ทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าว รวมทั้งมีการไปยื่นหนังสือให้รัฐบาลหลายครั้ง และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์ พร้อมแนะวิธีกระตุ้นให้ภาครัฐใช้ยางพาราให้มากขึ้นหลายครั้งหลายหน จนเป็นที่มาให้มีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีที่รับผิดชอบเรื่องยางหลายคน และมีการให้เงินช่วยเหลือชาวสวนยางไร่ละ 1,800 บาท สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ได้กดดันรัฐบาลให้ออกมาตรการช่วยเหลือชาวสวนยางในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่สิ่งที่นายณัฐวุฒิไม่พูดถึงคือพรรคของนายณัฐวุฒิเคยทำอะไรให้ชาวสวนยางบ้าง และนายณัฐวุฒิก็ไม่พูดถึงสมัยที่ตัวเองดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ แล้วทำให้ราคายางตกต่ำอย่างไร ขณะที่สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์นั้น ราคายางพารามีราคาสูงสุดถึงกิโลกรัมละ 180 บาท และต่อมาในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ราคายางพาราก็ตกต่ำเรื่อยมาจนกระทั่งนายณัฐวุฒิมาดูแลเรื่องยาง แล้วราคายางก็เหลือกิโลกรัมละไม่ถึงร้อย ทั้งๆ ที่ใช้เงินไปนับหมื่นล้าน และยางพาราก็ยังคงมีราคาตกต่ำเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ “ความจริงวันที่นายณัฐวุฒิ นั่งบริหารกระทรวงเกษตรฯ กับนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ทำไมไม่ปากเก่งเรื่องราคายางแบบวันนี้ และทำไมเพิ่งจะมาปากเก่งเอาตอนใกล้เลือกตั้ง ชาวสวนยางน่าจะรู้ดี” ประการที่สาม วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รอส้มหล่น เพื่อร่วมรัฐบาลแต่พรรคประชาธิปัตย์คือ ทางเลือกหลักของประเทศ วันนี้เรามีผู้สมัครพร้อมทั้ง 350 เขต เรามีนโยบายที่ตอบโจทย์ประเทศบนพื้นฐาน “แก้จน สร้างคน สร้างชาติ” ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จึงพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะถึงไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจที่คิดหวังเพียงคะแนนบัญชีรายชื่อเพื่อให้ตัวเองได้มีอำนาจ แต่ผู้สมัครเขตสอบตกหมดเหมือนพรรคนายณัฐวุฒิ