ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ภัยแล้งในหลายพื้นที่ของ จ.สุโขทัย ว่า นอกจากจะส่งผลกระทบต่อชาวนา ชาวสวน และชาวประมงลุ่มน้ำยมแล้ว ล่าสุดยังคุกคามเกษตรกรที่ปลูกดอกดาวเรืองอีกด้วย โดยเฉพาะที่หมู่ 1 ต.ปากแคว อ.เมือง ซึ่งมีการทำสวนดาวเรืองมากกว่า 100 ไร่ เกษตรกรหลายรายจึงต้องปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการน้ำ โดยวางระบบท่อน้ำหยดเพื่อประหยัดน้ำในปีนี้
          นายสมใจ นาครินทร์ เกษตรกร ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย กล่าวว่า ภัยแล้งปีนี้หนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา เพราะฝนไม่ค่อยตก น้ำในแม่น้ำยมก็มีน้อย เกษตรกรจึงต้องช่วยเหลือตัวเอง โดยลงทุนวางระบบท่อน้ำหยดเพิ่มอีกไร่ละ 5,000 บาท เพื่อสูบน้ำจากแม่น้ำยมขึ้นมาใช้แบบประหยัด จะได้มีดอกดาวเรืองออกขายสู่ท้องตลาดต่อเนื่อง
          “แต่ปีนี้ราคาดอกดาวเรือง ก็ถูกกว่าทุกปี เพราะคนซื้อน้อยลง และเศรษฐกิจก็ไม่ดี ชาวบ้านไม่มีเงินซื้อดอกไม้ไหว้พระ ประกอบกับมีเกษตรกรหลายจังหวัดหันมาปลูกกันมากขึ้นด้วย” นายสมใจ กล่าวและว่า
สำหรับการปลูกดาวเรืองใน ต.ปากแคว จะมีการเริ่มเพาะปลูกกันในเดือนพฤศจิกายน และเก็บเกี่ยวผลผลิตขายกันในช่วงเดือนมกราคม - เมษายน ของทุกปี โดยมีพ่อค้ามารับซื้อทุกวัน ๆ ละ 200,000 ดอก ราคาเฉลี่ยดอกละ 50-80 สตางค์ นำส่งขายต่อที่ตลาดปากคลอง กรุงเทพฯ แต่ช่วงที่ขาดตลาดจะตัดดอกขายได้มากถึง 500,000 ดอก
          นอกจากนี้ทุ่งดาวเรือง ต.ปากแคว ยังเป็นสถานที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ถือเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของสุโขทัย เพราะมีความสวยงามตระการตา ประชาชน และนักท่องเที่ยว ที่เดินทางผ่านมักจะจอดรถลงไปถ่ายเซลฟี่ ขณะที่คู่รักหนุ่มสาวหลายคู่ก็พากันมาถ่ายภาพพรีเวดดิ้งไว้โชว์ในวันแต่งงาน รวมทั้งคนที่เข้ารับปริญญาก็มาใช้เป็นฉากถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วย