เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 ธันวาคม 2568 ที่ HOME By The Library | Phitsanulok อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พรรคเพื่อไทยจัดการประชุมสมาชิกพรรคและรับฟังความคิดเห็นจากว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 5 เขต บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีสมาชิกพรรคและผู้สนับสนุนเข้าร่วมจำนวนมาก

โอกาสนี้ พรรคเพื่อไทยจังหวัดพิษณุโลก ได้เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ครบทั้ง 5 เขต ได้แก่
เขต 1 นายจเด็ศ จันทรา
เขต 2 นายนพพล เหลืองทองนารา
เขต 3 นายเจนวิทย์ จันทรา
เขต 4 น.ส.พิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ
เขต 5 นายเอกพงศ์ กุลเจริญ

นายจเด็ศ จันทรา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พิษณุโลก เขต 1 ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งอย่างเต็มที่ โดยจังหวัดพิษณุโลกส่งผู้สมัครครบทั้ง 5 เขตแล้ว พร้อมเดินหน้าทำงานทันทีหากได้รับโอกาสจากประชาชน
“พวกเราเตรียมตัวมาเต็มที่ นโยบายของพรรคจะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นนโยบายที่สานงานต่อ หากเข้าไปทำงานได้ก็พร้อมลุยทันทีภายใน 3 เดือน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหวยเกษียณ การปลดหนี้ เงินกู้ช่วยเหลือภาคประชาชนและภาคเกษตรกร รวมถึงการนำ AI มาช่วยพัฒนานโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่” ส่วนประเด็นนโยบายด้านชายแดน นายจเด็ศระบุว่า ขณะนี้มีความไม่สงบในบางพื้นที่ เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยได้เตรียมนโยบายรองรับไว้แล้ว ซึ่งจะขอชี้แจงพร้อมกันในระดับประเทศ เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ขณะที่การหาเสียงครั้งนี้ยืนยันว่าไม่หนักใจ ยังคงใช้แนวทางลงพื้นที่พบปะประชาชน รับฟังเสียงชาวบ้านให้มากที่สุดเช่นเดียวกับการเลือกตั้งที่ผ่านมา

ด้าน น.ส.พิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พิษณุโลก เขต 4 กล่าวว่า วันนี้เป็นกระบวนการไพรมารีโหวต ซึ่งเปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยเป็นผู้เลือกตัวแทนผู้สมัครในแต่ละเขตเลือกตั้ง ขณะนี้ดำเนินการแล้วเสร็จครบทั้ง 5 เขต และในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ จะมีการรับสมัครเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมให้กำลังใจทีมผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย แม้พรรคเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลมาเกือบ 2 ปี และได้เริ่มแก้ไขปัญหาไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่จังหวัดพิษณุโลกยังมีปัญหาอีกหลายด้านที่ต้องเร่งผลักดัน โดยเฉพาะการพัฒนาให้พิษณุโลกเป็นแหล่งท่องเที่ยว ไม่ใช่เพียงเมืองทางผ่าน“เราอยากให้พิษณุโลกเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวตั้งใจมาเที่ยวจริง ๆ บูมการท่องเที่ยวในทุกมิติ ซึ่งรายละเอียดบางเรื่องขออุบไว้ก่อน”
สำหรับปัญหาโครงการบางระกำโมเดล น.ส.พิมพ์พิชชา ระบุว่า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบครอบคลุมอำเภอพรหมพิราม บางระกำ และบางส่วนของอำเภอเมือง รวมกว่า 50,000 ไร่ ปีนี้ประชาชนได้รับผลกระทบหนักจากน้ำท่วมขังเป็นเวลานานกว่า 4 เดือน ประกอบกับราคาข้าวตกต่ำ ทำให้ขาดรายได้และสภาพคล่อง “เรื่องนี้ได้นำเสนอต่อพรรคเพื่อไทยและสภาผู้แทนราษฎรก่อนปิดสมัยประชุม เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 เพื่อขอให้มีการชดเชยเยียวยาพื้นที่หน่วงน้ำ ไร่ละ 500 บาท รวมถึงการช่วยเหลือแบบขั้นบันไดในรอบ 2 สำหรับพื้นที่น้ำท่วมขังเกิน 30 วัน เดือนละ 5,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท ซึ่งขณะนี้กำลังติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับคำตอบและการเยียวยาโดยเร็ว”

การเปิดตัวผู้สมัครและเวทีรับฟังเสียงประชาชนในครั้งนี้ สะท้อนความพร้อมของพรรคเพื่อไทยจังหวัดพิษณุโลก ในการขับเคลื่อนนโยบายจากส่วนกลางสู่การแก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม และเดินหน้าสู้ศึกเลือกตั้งด้วยการยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง

พิษณุโลก/ศริตวรรธน์ อัครชินพรรณ/0661326136