ในการ ประชุมสภาเมืองพัทยา สมัยสามัญ สมัยที่สี่ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2568   นายวุฒิศักดิ์ เริ่มกิจการ รองนายกเมืองพัทยา ได้เสนอญัตติ ขอความเห็นชอบการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ ว่า การขอความเห็นชอบจากสภาเมืองพัทยา เพื่อใช้ประกอบการยื่นขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ ตามมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ซึ่งกำหนดให้ต้องมีมติจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก่อนยื่นขออนุญาต ทั้งนี้เมืองพัทยามีความจำเป็นต้องดำเนิน โครงการก่อสร้างถนนสาธารณะจำนวน 392 สายทาง พร้อมสาธารณูปโภคพื้นฐาน ซึ่งบางส่วนตั้งอยู่ในเขตป่าไม้ จึงต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และกฎกระทรวงการขออนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่า พ.ศ. 2558 รวมถึงเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและ เพื่อให้การดำเนินโครงการถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย จึงขอให้ สภาเมืองพัทยา พิจารณาให้ความเห็นชอบการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ 

      ด้าน นายไพรวัลย์ อารมณ์ชื่น รองประธานสภาเมืองพัทยา ได้แสดงความคิดเห็นและตั้งข้อสังเกตต่อฝ่ายบริหารเกี่ยวกับการบังคับใช้ พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 โดยระบุว่า จากการศึกษารายละเอียดของกฎหมายดังกล่าวทำให้เกิดความสันสนว่า เหตุใดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งต้องพัฒนาพื้นที่หรือดำเนินโครงการต่าง ๆ ในพื้นที่ที่ไม่มีโฉนด ไม่ว่าจะอยู่ในเขตเมืองหรือนอกเมือง จึงต้องขออนุญาตจากกรมป่าไม้ ทั้งที่พื้นที่เหล่านั้นมีการใช้ประโยชน์และมีการก่อสร้างถนนมาแล้วเป็นจำนวนมากในอดีต

     ทั้งนี้หากอ้างอิงกฎหมายปี 2484 มาบังคับใช้กับ อปท.ในทุกกรณี ก็อาจทำให้การพัฒนาพื้นที่ล่าช้า ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในปัจจุบัน และในมุมมองของประชาชนก็ถือเป็นเรื่องที่ “น่าตลก” อย่างยิ่ง จึงฝากฝ่ายบริหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้นำประเด็นเรื่องการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว ไปหารือกับส่วนราชการระดับกลาง รวมถึงในการประชุมกับ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาทบทวนว่าจำเป็นต้องขออนุญาตจากกรมป่าไม้ทุกครั้งหรือไม่เมื่อ อปท.ต้องพัฒนาพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดอุปสรรคหรือล่าช้าในการดำเนินงานของท้องถิ่น
     ขณะที่ นายเกียรติศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย ปลัดเมืองพัทยา ได้ชี้แจงว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นปัญหาที่ทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศได้ทักท้วงกรมป่าไม้อย่างต่อเนื่อง ในที่ประชุมคณะกรรมการการกระจายอำนาจ

เนื่องจากกรมป่าไม้ยังคงยึดหลักว่า “พื้นที่ใดไม่มีโฉนด ถือเป็นพื้นที่ป่า” ส่งผลให้ อปท.ต้องขออนุญาตก่อนดำเนินโครงการ แม้พื้นที่นั้นจะมีการใช้งานหรือพัฒนาอยู่แล้วก็ตาม ซึ่งเรื่องนี้ถูกหยิบยกหารือในหลายเวที เช่น การตั้งข้อสงสัยว่า ถนนสุขุมวิท จะต้องขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าด้วยหรือไม่ ซึ่งกรมป่าไม้ตอบว่า หากไม่เข้าเกณฑ์ข้อยกเว้น ก็ต้องยึดตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ทั้งหมด และประเด็นดังกล่าวทำให้ท้องถิ่นทั่วประเทศมีความเห็นคัดค้าน เพราะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา แต่ในขณะเดียวกัน กรมป่าไม้เป็นผู้คุ้มกฎหมาย หาก อปท.ไม่ปฏิบัติตาม ก็จะเข้าข่ายทำผิดกฎหมายตามระเบียบของกรมป่าไม้
   ทั้งนี้สภาเมืองพัทยา เห็นชอบเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ ในการดำเนิน โครงการก่อสร้างถนนสาธารณะจำนวน 392 สายทาง พร้อมสาธารณูปโภคพื้นฐาน