สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ชู "ฉลากสิ่งแวดล้อม" เครื่องมือเศรษฐกิจยุคใหม่ตอบโจทย์การค้าโลก สร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ ขับเคลื่อนการผลิตและบริโภคที่ยั่งยืน

สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) จัดงานสัมมนา “TEI-Ecolabelling Forum 2025: Ecolabel for the Future ฉลากสิ่งแวดล้อมกับการสร้างมูลค่าใหม่ทางธุรกิจ” ตอกย้ำบทบาทของ "ฉลากเขียวและฉลากสิ่งแวดล้อม" ที่วันนี้คือเครื่องมือทางเศรษฐกิจที่จำเป็น สำหรับภาคธุรกิจไทยในการแข่งขัน และเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน

ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ประธานในการเปิดงานพร้อมชี้ให้เห็นว่า ปัจจุบันผลกระทบสิ่งแวดล้อม ทั้งเรื่องโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นเรื่องยิ่งใหญ่ที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน ผ่านการเลือกใช้สินค้าฉลากเขียวคือจุดหนึ่งที่เราช่วยสังคมได้ ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่าการค้าในตลาดโลกฉลากสิ่งแวดล้อมคือกลไกสำคัญหนึ่งที่ขับเคลื่อนตลาดสีเขียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียวของภาครัฐ ฉลากเขียวของประเทศไทยยังเชื่อมกับฉลากสิ่งแวดล้อมโลก ที่เราเรียกว่า Global Ecolabelling Network (GEN) ซึ่งเรามีข้อตกลงร่วมกันกกว่า 15 ประเทศสมาชิก เช่นล่าสุดนี้ได้ลงนามกับ สิงคโปร์ ศรีลังกา และอุซเบกิสถาน ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถขอการรับรองฉลากเขียวของประเทศที่เราลงนามข้อตกลงได้สะดวกขึ้น และในฐานะผู้บริหารสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย หน่วยรับรองฉลากเขียวของประเทศไทย จึงมีความยินดีที่ได้จัดงานนี้ขึ้น เพื่อแสดงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการรักษาสิ่งแวดล้อม สุขภาพของผู้บริโภค ตลอดจนสร้างความตระหนักในการผลิตและบริโภคสีเขียว และมุ่งสู่การผลิตและบริโภคที่ยั่งยืนต่อไป

ด้าน ดร.ฉัตรตรี ภูรัต ผู้อำนวยการฝ่ายฉลากเขียวและฉลากสิ่งแวดล้อม สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ได้อธิบายถึงบทบาทของฉลากสิ่งแวดล้อมในการขับเคลื่อนการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน รวมถึงโอกาสทางธุรกิจที่พร้อมเปิดเผยว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง เป็นกลุ่มที่เติบโตมากที่สุด เนื่องจากใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในสำนักงาน กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ภายในบ้าน ตลอดจนงานบริการ เช่น งานบริการทำความสะอาด งานบริการโรงแรม งานบริการซักรีด งานบริการเช่าเครื่องพิมพ์เครื่องถ่ายเอกสาร เป็นต้น

สำหรับกิจกรรมภายในงาน ยังได้เปิดเวทีเสวนาในหัวข้อ “ทิศทางฉลากสิ่งแวดล้อมของโลก โอกาสทางธุรกิจใหม่ และการจัดซื้อสีเขียว” ซึ่งมีผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาควิชาการ ภาคธุรกิจค้าปลีก และภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง (อาคารเขียว) มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง  พร้อมพิธีมอบเกียรติบัตร เพื่อเชิดชูเกียรติแก่ผู้ประกอบการที่มุ่งมั่นดำเนินงานจนได้รับการรับรองมาตรฐานฉลากสิ่งแวดล้อม ได้แก่ ฉลากเขียว ฉลากผลิตภัณฑ์หมุนเวียน (Circular Mark) ฉลากข้อมูลสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ (EPD) และ Inno-Green Station ประจำปี 2567-2568 รวมทั้งสิ้น 70 บริษัท

งานสัมมนาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ในยุคที่ทั่วโลกให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ฉลากสิ่งแวดล้อมได้กลายเป็นมาตรฐานสำคัญที่สะท้อนความรับผิดชอบของผู้ผลิต และเป็นกุญแจสำคัญสำหรับภาคธุรกิจในการ สร้างมูลค่าเพิ่ม โดยเฉพาะการปลดล็อกโอกาสในตลาด "การจัดซื้อจัดจ้างสีเขียว (Green Public Procurement)" ที่มีมูลค่ามหาศาล ทั้งยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าไทยในตลาดโลกที่ใช้มาตรฐานสิ่งแวดล้อมเป็นเกณฑ์