เมื่อวันที่ 31 ต.ค. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. รับมอบสะพาน SCG นวัตกรรมคนไทย ข้ามคลองโอ่งอ่าง บริเวณช่วงสะพานดำรงสถิต และสะพานภาณุพันธ์ เขตพระนคร โดยมี นายณรงค์ เรืองศรี ปลัด กทม. นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCG) ผู้บริหาร กทม. ผู้บริหารบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCG) ผู้บริหารเขตพระนคร และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า สะพานแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันขับเคลื่อนโครงการตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ตามพระราชปณิธานสืบสาน รักษา ต่อยอด เพื่อฟื้นฟูลำน้ำและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนเมือง กทม.ไม่สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยระบบราชการเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยความร่วมมือกับภาคเอกชน ภาควิชาการ และภาคประชาชน ซึ่งจะกลายเป็นเกลียวที่ทำให้เกิดพลังที่เข้มแข็ง ต้องยกย่องความร่วมมือที่ดีระหว่างบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) กับกรุงเทพมหานครที่มีมาโดยตลอด

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเพิ่มว่า หัวใจของสะพานนี้ แสดงถึงนวัตกรรมของคนไทยในยุคปัจจุบัน ซึ่งถือว่าการมีนวัตกรรมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการแข่งขันในโลก สะพานแห่งนี้มีความหมายในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีใหม่และความรวดเร็วในการก่อสร้าง ซึ่งใช้เวลาเพียง 2 เดือนครึ่ง นอกจากนี้ยังเป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นว่าเราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ โดยเน้นว่าหัวใจของเมืองในตอนนี้ที่ขาดคือประสิทธิภาพ หากช่วยกันพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพ คือการใช้ทรัพยากรเท่าเดิมแต่ได้ผลผลิตมากขึ้น จะทำให้เมืองของเรา สามารถแข่งขันกับที่อื่นได้ หวังว่าความร่วมมือดังกล่าวจะมีการต่อยอดและทวีคูณต่อไป เพื่อการพัฒนา กทม.ให้เป็นเมืองที่มีประสิทธิภาพและทันสมัยยิ่งขึ้น

นายธรรมศักดิ์ กล่าวว่า SCG มีความภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบและก่อสร้างสะพานแห่งนี้ร่วมกับกรุงเทพมหานคร ภายใต้แนวคิด สะพานนวัตกรรมคนไทย เพื่อเมืองที่ยั่งยืน ด้วยการนำนวัตกรรมของคนไทยที่พัฒนาโดยคนไทยมาใช้งาน โดยใช้เทคโนโลยีและวัสดุที่ล้ำสมัยหลายประการ ได้แก่ เทคโนโลยีการพิมพ์คอนกรีต 3 มิติ (3D Printing) ซึ่งมีกำลังอัดสูง คอนกรีต High Performance Concrete (HPC) ที่มีความแข็งแรงสูงกว่าคอนกรีตทั่วไป และปูนซิเมนต์ลดโลกร้อน Generation 3 ที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 30% เทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้สะพานมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นจุดดึงดูดที่สำคัญในพื้นที่.