รมช.เกษตรฯ มอบนโยบายขับเคลื่อน ส.ป.ก. ปี 2569 เร่งมาตรการ 8 ด้าน เพื่อเกษตรกรมีที่ดินทำกินอย่างยั่งยืน
นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพร้อมมอบนโยบายแก่ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ในพิธีเปิดโครงการสัมมนา เรื่อง แนวทางและนโยบายการขับเคลื่อนงานของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ประจำปีงบประมาณ 2569 โดยมีนายธนสาร ธรรมสอน ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายธัญญวัฒน์ พากเพียร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ) นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ เลขาธิการ ส.ป.ก. และเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. เข้าร่วม ณ ห้องอมรินทร์ ชั้น 3 โรงแรมเอสดี อเวนิว เขตบางพลัด กรุงเทพฯ ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย ส.ป.ก. ได้เตรียมเร่งรัดการจัดที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกร ขยายผลการยกระดับเอกสารสิทธิ์ให้เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร และยกระดับโครงสร้างพื้นฐานในเขตปฏิรูปที่ดิน ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งในวันนี้ได้มอบแนวทางการดำเนินงานให้แก่ผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในปี 2569 รวมทั้งสิ้น 8 ด้าน ดังนี้
• เร่งรัดการออกโฉนดเพื่อการเกษตร เป้าหมาย 22.88 ล้านไร่ ดำเนินการได้ทันที 17.52 ล้านไร่ จัดทำโฉนดแล้ว 854,703 แปลง รวมทั้งสิ้น 9.31 ล้านไร่ คงเหลืออีก 8.21 ล้านไร่ คาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จในปี 2569
• เร่งรัดการยึดคืนพื้นที่ถือครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยมอบหมายให้ ส.ป.ก.จังหวัด ตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายตามคำสั่ง คสช. ที่ 36/2559 เป้าหมายยึดคืนไม่น้อยกว่า 5 พื้นที่ หากพบการถือครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือผู้ครอบครองไม่เข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดิน ส.ป.ก. จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อนำที่ดินมาจัดให้เกษตรกรผู้ไร้ที่ดินทำกินอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม ทั้งนี้ ส.ป.ก. เปิดโอกาสให้ผู้ครอบครองที่ดินได้แสดงสิทธิตามกฎหมายและเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินได้ตามกฎหมาย
• เร่งรัดการอนุญาตการใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรและประโยชน์สาธารณะของประเทศ ได้แก่ 1) ด้านพลังงาน (การไฟฟ้าฝ่ายผลิต/พลังงาน) 2) โครงข่ายโทรคมนาคม (เสารับ-ส่งสัญญาณโทรศัพท์) 3) โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและระบบ
โลจิสติกส์ (ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง) 4) ทรัพยากรแร่ และ 5) ปิโตรเลียม(น้ำมัน/ก๊าซธรรมชาติ) เป็นต้น มีเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2569 ได้แก่ เสาโทรศัพท์ จำนวน 1,510 เสา ปิโตรเลียม 3 คำขอ และกังหันลม 2 คำขอ
• เร่งรัดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและแหล่งน้ำในเขตปฏิรูปที่ดิน ได้แก่ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร โครงการพัฒนาระบบคมนาคมเพื่อการเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดิน เป็นต้น
• เร่งรัดการแก้ไขกฎหมายและระเบียบที่เป็นปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน ได้แก่ 1) การแก้ไขปรับปรุงกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอและการพิจารณาให้ความยินยอมหรืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2560 2) การแก้ไขพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 และ 3) การจัดที่ดินตามข้อ 62 ตามระเบียบ คปก. โดยเปลี่ยนจาก ส.ป.ก. 4-01/สัญญาเช่า/สัญญาเช่าซื้อ เป็นสัญญาเช่า โดย ส.ป.ก. รับขึ้นทะเบียนไว้แล้ว 134,035 ราย (ข้อมูล ณ 25 ก.ย. 68) แนวทางการแก้ไขปัญหา ขยายระยะเวลาการยื่นคำขอไปอีก 1 ปี โดยเสนอ คปก. พิจารณา และมีเป้าหมายการจัดที่ดินตามข้อ 62 ปี 2569 จำนวน 70,000 ราย
• การปรับปรุงมาตรฐานการสำรวจรังวัด ได้แก่ การปรับปรุงแผนที่แปลงที่ดินจากระบบศูนย์ลอยให้เป็นแผนที่ตามมาตรฐานสากล WGS84 ซึ่งแปลงที่ดินดังกล่าวยังมีอยู่ในพื้นที่ 65 จังหวัด 579 อำเภอ 2,643 ตำบล จำนวน 1.6 ล้านแปลง 19 ล้านไร่ มีแผนดำเนินการ 2,643 ตำบล
• เร่งรัดการจัดทำเขตที่ดินชุมชน ดำเนินการแล้ว 9,138 ชุมชน และมีเป้าหมายดำเนินการอีก 200 ชุมชน
• ผลักดันสังคมคาร์บอนต่ำ โดยส่งเสริมพลังงานสะอาด ได้แก่ 1) ระบบสูบน้ำและกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ อาทิตย์ในชุมชน (GIZ) 2) บ่อบาดาล+หอถังสูง+ระบบกระจายน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ก่อสร้าง 12 แห่ง ในพื้นที่ 5 จังหวัด และ 3) พัฒนายกระดับวิถีเกษตรไปสู่เกษตรกรรุ่นใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ ลดจำนวนจุด Hot Spot ส่งเสริมให้ปลูกต้นไม้มีค่า 10 ต้น/ไร่ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์บนที่ดินในพื้นที่โฉนดเพื่อการเกษตร ซึ่งสามารถนำไปค้ำประกันเงินกู้กับ ธ.ก.ส. ได้ เป็นต้น
“ขอให้ทุกหน่วยงานจัดลำดับความสำคัญของแต่ละนโยบาย พิจารณาความเร่งด่วน ผลกระทบต่อพื้นที่ และความพร้อมของทรัพยากร เพื่อให้การดำเนินงานมีทิศทางชัดเจนและตอบเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ของ ส.ป.ก. อย่างเป็นรูปธรรม โดยจัดทำแผนปฏิบัติการ กำหนดผู้รับผิดชอบ เพื่อใช้เป็นกรอบในการติดตามและประเมิผล นำเสนอผู้บริหารรับทราบเป็นรายเดือน นอกจากนี้ หากมีปัญหาอุปสรรคหรือข้อจำกัดในการดำเนินงาน ให้แจ้งมายังส่วนกลางทันทีเพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาและให้การดำเนินงานลุล่วงตามเป้าหมายโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ โดย ส.ป.ก. ยังคงดำเนินการจัดที่ดินให้แก่เกษตรกร ผู้ยากไร้ หรือสถาบันเกษตรกร และส่งเสริมการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนต่อไป” รมช.นเรศ กล่าว