เมื่อเวลา 11:00 น วันที่ 9 กันยายน 2568 ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดพิษณุโลก หมู่ 8 ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้มีการประชุมของคณะกรรมการเครือข่าย ศพก.และแปลงใหญ่ระดับจังหวัด และประชุมเชื่อมโยงการดำเนินงานคณะกรรมการเครือข่ายแปลงใหญ่ ซึ่งมีวาระสำคัญคือการวางแผนการผลิตข้าว เพื่อรองรับสถานการณ์ผลผลิตราคาตกต่ำและภัยธรรมชาติ โดยมี นายสวน เจริญสุขรุ่งเรือง ประธานเครือข่ายแปลงใหญ่จังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานการประชุม และเป็นตัวแทนเกษตรกรมอบหนังสือให้แก่สมาชิกผู้แทนราษฎรทั้ง 5 เขต ของจังหวัดพิษณุโลก เพื่อนำเรื่องความเดือดร้อนของเกษตรกรเข้าไปในสภา

นายสวน เจริญสุขรุ่งเรือง ประธานเครือข่ายแปลงใหญ่จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า วันนี้ได้มอบหนังสือเรื่องปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะข้าวและมะม่วง ให้แก่ นายนพพล เหลืองทองนารา นายจเด็จ จันทรา นางสาวพิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจ สมาชิกผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทย นายพงษ์มนู ทองหนัก พรรครวมไทยสร้างชาติ นายศุภปกรณ์ กิตยาธิคุณ พรรคประชาชน ทั้ง 5 ท่าน เป็นสมาชิกผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก ตามที่ได้จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการเครือข่าย ศพก. และคณะกรรมการเครือข่ายแปลงใหญ่ทั้ง 9 อำเภอ ของจังหวัดพิษณุโลก ได้มีปัญหาใหญ่ที่สำคัญจึงขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมเพื่อแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ รับสถานการณ์ราคาข้าวที่จะเริ่มเก็บเกี่ยวตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 และเตรียมความพร้อมรับมือราคามะม่วงที่จะเริ่มเก็บผลผลิตตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2569 ตามมาตรการบริหารจัดการข้าวและผลไม้ของทางภาครัฐ ซึ่งในที่ประชุมมีข้อสรุปให้ภาครัฐช่วยผลักดันราคาข้าวเปลือกสดหอมมะลิ ในราคา 12,000 บาท/ตัน และราคาข้าวเปลือกสดข้าวขาวในราคา 10,000 บาท/ตัน เนื่องจากเมื่อเปรียบเทียบสถิติราคาข้าวเปลือกปี 2558 ราคา 7,800 บาท/ตัน ปัจจุบัน 2568 ราคา 6,300 บาท/ตัน ซึ่งไม่สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และขอให้หน่วยงานเซลล์แมนประเทศไทย กระทรวงพาณิชย์เร่งทำการตลาดข้าว หาคู่ค้าจากต่างประเทศเพื่อแข่งขันกับประเทศอื่นเช่นอินเดีย เวียดนาม หรือหาวิธีอื่นใดเพื่อให้คาบประเทศไทยมีราคาสูงขึ้น และขอให้ช่วยเจรจาขายข้าว มะม่วง และผลผลิตทางการเกษตรของประเทศให้กับประเทศผู้ที่ขายสินค้ามูลค่าสูงให้กับประเทศไทย เช่นจีน ยุโรป ซึ่งเป็นประเทศผู้ขายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับประเทศไทย และงดการนำเข้าสินค้าทางการเกษตรที่ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตได้ดี มีคุณภาพมาตรฐานอยู่แล้วเช่น ข้าว มะม่วง เนื่องจากสถิติ 3 ปีที่ผ่านมามะม่วงพิษณุโลก มะม่วงไทย ซึ่งมีกระบวนการผลิตทางการเกษตรที่ดีและเหมาะสมมีความปลอดภัยมีคุณภาพมาตรฐาน gap รับรอง โดยกรมวิชาการเกษตรมีราคาตกต่ำลงอย่างต่อเนื่องทำให้เกษตรกรประสบปัญหาขาดทุน แทบจะล้มละลาย ในขณะที่มะม่วงพิษณุโลก มะม่วงไทยล้นตลาด แต่กลับมีการนำเข้ามะม่วงแก้วขมิ้นจากประเทศกัมพูชาเป็นจำนวนมากมายมหาศาล โดยเริ่มนำเข้าตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา มีปริมาณนำเข้าที่สูงขึ้นทุกปีเช่นในปี 2567 มีปริมาณนำเข้ามะม่วงจากประเทศกัมพูชาสูงถึง 40 ล้านกิโลกรัม 

ดังนั้นตัวแทนเครือข่ายเกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่ข้าว กลุ่มแปลงใหญ่มะม่วง และผู้ผลิตพืชผลทางการเกษตรอื่นๆ จึงขอความอนุเคราะห์หาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรจังหวัดพิษณุโลก แก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำเพื่อความมั่นคงยั่งยืนในอาชีพของเกษตรกร และขอให้สมาชิกผู้แทนราษฎรทั้ง 5 เขตรายงานความคืบหน้าให้ทราบภายใน 15 วัน 

ปัจจุบันราคาข้าวเปลือกความชื้น 15% เปรียบเทียบ 11 ปีที่ผ่านมา เมื่อปี 2558 7,800 บาท/ตัน พ.ศ 2565 9,400 บาท/ตัน ราคาสูงที่สุดเมื่อปี พ.ศ 2566 11,500 บาท/ตัน และ ราคาต่ำสุดฝนปี พ.ศ.2568  6,300 บาท/ตัน และสถิติข้อมูลการนำเข้ามะม่วงจากประเทศกัมพูชา เมื่อปี 2567 ตลาดนำเข้ามะม่วงจากกัมพูชามากถึง 99.80 % นี่คือปัญหาเบื้องต้นที่เกษตรกรได้รับผลกระทบ 

พิษณุโลก/ศริตวรรธน์ อัครชินพรรณ/0661326136