หลังสั่งคุมเข้มรถบรรทุกสินค้าไม่มีใบอนุญาตทุกคัน จนขบวนรถพ่วง-เทรลเลอร์ ติดค้างหน้าด่านฯ เป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการจัดระเบียบการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ส่งผลให้เข้มงวดการขนส่งสินค้าชายแดน

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สอด จังหวัดตาก มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ทางการเมียนมาจังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ตรงข้ามบ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ที่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ได้ทำการระงับการขนส่งสินค้าชั่วคราวผ่านด่านพรมแดนแม่สอด-เมียวดี 2 บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ตรงข้ามบ้านวังตะเคียนใต้ ทำให้รถยนต์และสินค้าบางชนิดไม่สามารถผ่านได้ เป็นวันที่ 2 โดยการสั่งระงับขนส่งสินค้าชั่วคราวด่านพรมแดน 2 ของฝ่ายเมียนมาไม่มีการแจ้งให้ทางการไทยทราบแต่อย่างใด แม้แต่ทางด่านศุลกากรแม่สอดก็ไม่ได้รับแจ้ง ซึ่งด่านพรมแดนดังกล่าวเป็นช่องทางที่สำคัญที่สุดในการส่งออก-นำเข้าสินค้า ข้ามพรมแดนไทย-เมียนมา ก่อนหน้านี้เคยมีมูลค่าการค้าระหว่างกันเดือนละกว่าหมื่นล้านบาท หรือไตรมาสละเกือบ 50,000 ล้านบาท ล่าสุดเหลือเพียงหมื่นกว่าล้านบาทต่อไตรมาสเท่านั้น และเมื่อทางการเมียนมามีคำสั่งระงับช่องทางการค้าใหญ่สุดของภาคเหนือติดขัดทันที จนทำให้ที่บริเวณลานจอดรถบริเวณสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 และด่านพรมแดนแห่งที่ 2 บ้านวังตะเคียนใต้ อ.แม่สอด เต็มไปด้วยรถบรรทุกสินค้าจำนวนมาก จอดรออยู่บริเวณลานจอดรถ เพื่อเป็นการจัดระเบียบการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ส่งผลให้เข้มงวดการขนส่งสินค้าชายแดน

แหล่งข่าวจากทหารชนกลุ่มน้อยในพื้นที่จังหวัดเมียวดีแจ้งว่า คำสั่งระงับขนส่งสินค้าชั่วคราวด่านพรมแดนมาจากหน่วยเหนือที่เมืองเนปิดอว์ เบื้องต้นคาดว่าทางการเมียนมาต้องการกดดันให้มีการส่งออกสินค้าเข้าสู่ระบบ เพื่อให้รัฐมีรายได้ เนื่องจากที่ผ่านมารายได้ส่วนมากจากการค้าชายแดนไปตกอยู่กับกองกำลังชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่างๆ รวมทั้งกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (บีจีเอฟ) ที่เป็นกองกำลังหลักในพื้นที่ด้วย ทางการเมียนมาจึงออกมาตรการเข้มงวดสินค้าไทย เพื่อต้องการจัดระเบียบใหม่เพื่อให้รัฐมีรายได้อย่างไรก็ตาม ทางการเมียนมายังคงเปิดสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 โดยเปิดให้ชาวไทย ชาวเมียนมาข้ามแดนไปมาได้ตามปกติ และสามารถขนส่งสินค้ารายย่อย ซึ่งเป็นสินค้าใช้สอยในท้องถิ่นได้เช่นเดิม ส่วนสภาบริหารทหารเมียนมาได้เข้มงวดสินค้าจากชายแดนไทยเข้าประเทศเมียนมา โดยตั้งจุดสกัดตามพื้นที่ชั้นใน ตรวจยึดรถยนต์ และสินค้านำเข้าของผู้ประกอบการชาวเมียนมาที่นำสินค้าจากประเทศไทยเข้าไปยังประเทศเมียนมา อย่างต่อเนื่อง ทำให้รถบรรทุกขนาดใหญ่ ที่ขนสินค้าจาก กทม.-แหลมฉบัง และจังหวัดต่างๆ ต้องจอดรออยู่หน้าด่านฯ แม่สอด กว่า 500 คัน

ด้านนายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดตาก กล่าวว่า การที่ทางการเมียนมาเข้มงวดการนำเข้าสินค้าจากประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม ภาคเอกชนผู้ส่งออกและนำเข้าสินค้า ได้ประชุมร่วมกับทางภาครัฐโดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ได้เจรจากับทางการเมียนมา ร่วมแก้ไขระบบการค้าขายให้กับมาเป็นปกติได้ ซึ่งเป็นปัญหาภายในประเทศเมียนมาทางด้านเศรษฐกิจ การค้าชายแดนแม่สอดจะแตกต่างกับการชายแดนจุดอื่นโดยมีหลายปัจจัย ถ้าทางการเมียนมาอำนวยความสะดวกให้มากที่สุด โดยเฉพาะกฎระเบียบที่ทำให้สินค้าเสียเวลา อันไหนที่ผ่อนปรนได้น่าจะผ่อนปรนให้ ซึ่งผลกระทบเหล่านี้การค้าขายสินค้าที่แม่สอด ทั้งสินค้าผ่านแดนและข้ามแดนมาจากที่อื่นจะเห็นได้ว่ารถบรรทุกคอนเทนเนอร์ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก 

เกษมสันต์ ไชยเดช จ.ตาก รายงาน