จากสงครามชายแดนทั้ง4จังหวัดคือบุรีรัมย์,สุรินทร์,ศรีสะเกษ,และอุบลราชธานีที่เกิดขึ้นระหว่างกัมพูชากับประเทศไทยนั้นและที่อ.น้ำยืนโดยเฉพาะที่ตำบลเก่าขามเกิดผลกระทบถือว่ารุนแรงอย่างมากกับประชาชนที่นี่ต้องอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิง,ในจุดต่างๆโดยมีอบต.เก่าขามที่ดูแลทางด้านกินอยู่หลับนอนอาหารวันละ3มื้อมีข้าราชการ,พนักงาน,ทีมงานของท่านนายกมิตร(ชาตรี๊ ศรีวิชาฐา)ช่วยกันในการหุงหาปรุงอาหารกันตลอดด้วยความห่วงใยพี่น้องทุกคนและที่สำคัญเน้นทำอาหารให้สะอาดสะอานและห่วงกลางคืนก็ออกตั้งจุดตรวจตรากับนายอำเภอ/ตำรวจ/กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน/ชรบ/พอตี3ก็ตื่นมาทำอาหารเพื่อให้ส่งทันเวลาในแต่ละมื้อและต้องขอบคุณทางนายกชาตรี๊ที่ได้จัดหาวัตถุดิบให้,พร้อมทั้งได้ประสานผู้ใหญ่ใจดี,เพื่อนพ้อง,น้องพี่,ได้นำสิ่งของที่จำเป็นในชีวิตประจำวันมามอบเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในยามศึกสงครามเรียกว่า"คนไทยไม่ทิ้งกัน
"ยายเมี้ยนเองได้เห็นความตั้งใจของนายกมิตรพร้อมข้าราชการ,พนักงานของอบต.เก่าขามนั้นร่วมกันทำหน้าที่ด้วยจริงใจและห่วงใยนี่แหละคือผู้นำที่ขันอาสามารับใช้ประชาชนคนเก่าขามอย่างแท้จริง..เพราะขณะที่ทางเขมรได้ระดมยิงปืนใหญ่มาใกล้พื้นที่,นายกมิตรยังไม่หนียังขับรถมาแจ้งข่าวตามที่นายอำเภอสั่งให้อพยพโดยด่วนแล้วนำประชาชนและพาทีมงาน,ที่ทำเสบียง,กำนัน,ผู้ใหญ่บ้าน,ชรบ.ออกจากพื้นที่ทันทีเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนคนเก่าขาม,ยายเมี้ยนเองจากผู้สื่อข่าวก็ต้องกลายมาเป็นผู้อพยพไปพร้อมกันเลย จึงได้เห็นเลยว่าคนจะเป็นผู้นำต้องกล้าเสียสละทุกสิ่งอย่างเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนโดยแท้จริง.