ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
สถ. แจงข้อกล่าวหา งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 157,000 ล้าน ที่ไม่เป็นธรรม
17 ก.ค. 2568

จากกนรณีที่งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 157,000 ล้านบาท ถูกระบุว่า จัดสรรอย่าง "ไม่เป็นธรรม" ล่าสุด กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ออกโรงชี้แจงปมร้อน การดำเนินโครงการ ขอรับการจัดสรรงบประมาณ ของ อปท. ที่ได้รับการพิจารณาในสัดส่วนที่ไม่เหมาะสม ไม่โปร่งใส มีการกระจุกตัวอย่างไม่เป็นธรรม

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏข่าวในสื่อออนไลน์ กรณีการดำเนินโครงการและขอรับจัดสรรงบประมาณ เพื่อขับเคลื่อนตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภายใต้งบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ของ อปท. ที่ได้รับการพิจารณาในลักษณะที่ไม่เหมาะสมและมีการระบุว่าอาจไม่เป็นธรรม

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ขอชี้แจงดังนี้

1. ครม. ได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 เห็นชอบแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้งบวงเงิน 157,000 ล้านบาท และมอบหมายหน่วยงานรับงบประมาณจัดทำโครงการและข้อเสนอแนวทาง เพื่อดำเนินการตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตามมติคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568

2. กระทรวงการคลัง เสนอกรอบแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเสนอให้ ครม. พิจารณาประกอบกับสำนักงานงบประมาณได้ทบทวนแผนการให้หน่วยรับงบประมาณดำเนินการพิจารณาข้อเสนอแนวทาง โดยผ่านความเห็นชอบจากรัฐมนตรีเจ้าสังกัด ไปยังสำนักงานงบประมาณ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการฯ คณะกรรมการนโยบายการระดมทุนเศรษฐกิจฯ และ ครม.

3. มท. แจ้งให้จังหวัดจัดทำข้อเสนอโดยโครงการและคำของบประมาณ ตามหลักเกณฑ์การจัดสรรเพื่อการลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ได้รับการอนุมัติจาก มติ ครม. แล้ว มท. แจ้งให้จังหวัดดำเนินการจัดทำข้อเสนอแผนแล้ว มท. จะจัดส่งข้อมูลให้จังหวัดนำไปอัพโหลดในระบบ New e-Budgeting ต่อไป

4. มท. มอบหมายการกลั่นกรองให้ สถ. ดำเนินการประมวลข้อมูล รวมรวม และกลั่นกรองข้อเสนอโครงการตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้งบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ของ อปท. ทุกแห่ง (ยกเว้นกรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา)

5. สถ. ได้รับข้อเสนอโครงการของ อปท. รวมทั้งสิ้น 5,316 แห่ง จำนวน 27,494 โครงการ งบประมาณ 161,950,170,900 บาท ซึ่งเกินกรอบวงเงินในภาพรวม 157,000 ล้านบาท ของมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ประกอบกับได้รับข้อมูลว่าสำนักงบประมาณให้ความสำคัญกับ โครงการด้านคมนาคมประมาณ 70,000 ล้านบาท และโครงการด้านน้ำ ประมาณ 40,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 110,000 ล้านบาท คงเหลืองบเงินที่จะจัดสรรให้ อปท. ประมาณ 37,000 ล้านบาท

สถ. จึงให้กรอบการคำนำข้อที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่สำนักงานงบประมาณกำหนด รวมถึงพิจารณาความครบถ้วนสมบูรณ์ของสารสนเทศข้อมูลบนคำของบประมาณในระบบ New e-Budgeting ตามพระราชบัญญัติวิธีงบประมาณ และดำเนินการคัดกรองคำขอ ได้พิจารณากลั่นกรองเสนอคำขอของ อปท. ให้ มท. รวมทั้งสิ้น 1,876 แห่ง จำนวน 4,826 โครงการ งบประมาณ 34,690,532,600 บาท

โดยภาพรวมของข้อเสนอในโครงการที่ได้รับความเห็นชอบจาก รมว.มท. มีจังหวัดที่มีคำของบประมาณเกิน 500 ล้านบาท มีจำนวนทั้งสิ้น 25 จังหวัด จังหวัดที่มีคำขอมากที่สุดคือ จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 100 อปท. 252 โครงการ งบประมาณ 2,050,686,100 บาท และจังหวัดที่มีคำขอน้อยที่สุดคือจังหวัดภูเก็ต จำนวน 1 อปท. 1 โครงการ งบประมาณ 3,527,800 บาท ค่าเฉลี่ยกระจายตัวทั่วประเทศอยู่ที่ประมาณ 456 ล้านบาท

6. กรณีที่มีการกล่าวว่า บาง อบต. หรือ อบจ. ขออะไรไม่เคยได้เลย บางที่ขอมาได้ 1–3 ล้านบาท แต่ได้ยินว่า พื้นที่บุรีรัมย์ สุรินทร์ ได้เพิ่มขึ้นจากที่เคยได้เป็นร้อยๆ ล้านบาท บางแห่งได้ถึง 700 ล้านบาท สถ. จึงเรียนชี้แจงว่า ได้พิจารณาถึงภาระรายจ่ายของงบประมาณ และคำขอโครงการต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวทางของสำนักงบประมาณกำหนด โดยคำนึงถึงโครงการที่มีความพร้อมของข้อมูลแบบรูปรายการ และสถานที่ดำเนินการ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าไม่มี อบต. หรือ อบจ. ใด ได้รับงบประมาณถึง 700 ล้านบาทแต่เพียงรายใด

ส่วนกรณีที่มีการกล่าวว่า บางพื้นที่เป็น อบต. ขนาดเล็ก ได้รับงบประมาณถึง 60–70 ล้านบาท แต่บางพื้นที่ไม่มีการจัดสรรงบประมาณไปเลย นั้น สถ. ได้ตรวจสอบแล้ว พบว่าโครงการของ อบต. มียอด 3,521 แห่ง ได้ผ่านการพิจารณากลั่นกรองคำขอโครงการเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวทางของสำนักงบประมาณ และมีความพร้อมของข้อมูล แบบรูปรายการ และสถานที่ดำเนินการ จำนวน 1,571 แห่ง ซึ่งมี อบต. ที่ได้รับงบประมาณสูงสุด 169 ล้านบาท เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่การท่องเที่ยว และมีจำนวน อบต. ที่คำขอโครงการไม่ผ่านการพิจารณา จำนวน 1,947 แห่ง เนื่องจากคำขอไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และไม่มีความพร้อมของการบันทึกข้อมูลแบบรูปรายการประกอบการพิจารณา 

และกรณี ข้อมูลคำของบประมาณไม่ตรงกันกับในระบบ New e-Budgeting สถ. ขอเรียนว่า สำนักงบประมาณกำหนดให้ อปท. บันทึกข้อมูลในระบบ New e-Budgeting ซึ่งเป็นระบบใหม่และระยะเวลาที่จำกัด ทำให้ในห้วงระยะที่ต้องบันทึกข้อมูลไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งเสนอโครงการของ อบต. จึงขาดความสมบูรณ์ ประกอบกับ อปท. ที่เป็นหน่วยรับงบประมาณโดยตรงได้แก่ อบจ. ทม. และ ทต. มีการบันทึกข้อมูลให้แก่สำนักงบประมาณโดยไม่ผ่านการตรวจสอบของ สถ. ส่งผลให้ข้อมูลไม่ถูกต้องตรงกัน

ดังนั้น สถ. ขอยืนยันว่า กรณีการดำเนินโครงการและขอรับจัดสรรงบประมาณ เพื่อดำเนินการตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ของ อปท. สถ. ได้พิจารณาอย่างเหมาะสมตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่กำหนดแล้ว

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 กรกฎาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
17 ก.ค. 2568
การแพทย์เป็นหนึ่งในระดับความสำคัญของการดำรงชีวิตอยู่ของมนุษยชาติ ซึ่งนอกจากตัวนายแพทย์ผู้ทำการรักษาแล้ว อุปกรณ์ทางการแพทย์แน่นอนย่อมมีความสำคัญไม่แพ้กัน ยิ่งในยุคสมัยใหม่นี้ด้วยแล้ว อุปกรณ์ทางการแพทย์ได้พัฒนาไปได้รวดเร็วยิ่ง อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทยเรา...