นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดี กรมส่งเสริมการเกษตร และประธานบอร์ดองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ( อ.ต.ก. ) เปิดเผยว่า จากนโยบาย“ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้”ของรมว.เกษตรและสหกรณ์ อ.ต.ก. เป็นในส่วนของตลาดเพราะเป็นมาร์เก็ตเพลส เป็นสถานที่ให้ผู้ซื้อผู้ขายมาเจอกัน แต่ด้วยภาพธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงการเป็นตลาดมาร์เก็ตเพลส จะต้องมีการขยับเป็นตลาดดิจิตอลมาร์เก็ตเพลสมากขึ้น “อดีตรายได้หลักมาจากคู่ค้าแต่จะใช้พื้นที่ในการทำธุรกิจของเราเองโดยการนำสินค้าเกษตรพรีเมี่ยมของเกษตรกรทั่วประเทศที่ได้รับการยืนยันและรับรองจากหน่วยงานเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่เพื่อให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้นและเปิดประสบการณ์ให้ผู้ที่เข้ามาใช้บริการนอกจากมองว่าเป็นตลาดสดแต่จะเป็นตลาดพรีเมี่ยมมากกว่าเดิม ที่บอร์ดมองเห็นและมอบนโยบายให้กับฝ่ายบริหารดำเนินการต่อไป”

นายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กล่าวว่า ปี 2568 อ.ต.ก.มีแผนโรดโชว์สินค้าเกษตรอีกประมาณ 3 ประเทศ คือ ซาอุดีอาราเบีย จอร์แดน และอิสราเอล แต่สถานการณ์ปัญหาหาภูมิรัฐศาสตร์ อาจจะต้องมีการพิจารณาปรับเปลี่ยนกันอีกครั้ง โดยจะไปในประเทศที่มีอนาคต ไม่มีความเสี่ยงเรื่องสงคราม ปัจจุบันร้านค้าหายไปประมาณ10%  จากที่มีอยู่ที่ประมาณ 800 ร้าน เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจ และจำนวนลูกค้าหลักๆรวมทั้งนักท่องเที่ยวที่ลดลงและหายไปจำนวนมาก ส่งผลให้ร้านค้าไม่สามารถดำรงอยู่ได้ ส่วนรายได้ปี 2567 มูลค่า 190 ล้านบาท ส่วนงบประมาณที่ได้รับจัดสรรในแต่ละปีประมาณ 100 ล้านบาท สำหรับกรณีการขึ้นค่าเช่าที่ดินการรถไฟฟ้าแห่งประเทศไทย ที่ต้องขึ้นทุกปีปีละ 5% ปัจจุบันอยู่ที่ 185 ล้านบาทต่อปี ส่วนสัญญาค่าเช่าพื้นที่กับการรถไฟในระยะ 15 ปีซึ่งจะครบกำหนดสัญญาปี 2570