เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานสัมมนา ”มัดรวมกฎหมาย การซื้อ-ขาย-เช่า-ลงทุน ของต่างชาติในไทย”ของสมาคมการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 นายกอทอง ทองแถม ณ อยุธยา รองผู้อำนวยการสำนักศูนย์ธุรกิจและเมืองใหม่อัจฉริยะ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) เปิดเผยว่า อีอีซีได้กำหนดพื้นที่ 14,619 ไร่ ใน ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พัฒนาเป็นเมืองใหม่อีอีซี หรือ กรุงเทพมหานครแห่งที่2 รองรับการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา มีมูลค่าการลงทุนกว่า 1.34 ล้านล้านบาท วางกรอบพัฒนาถึงปี 2580 มี 6 กลุ่มธุรกิจเป้าหมาย ได้แก่ ธุรกิจสำนักงานภูมิภาค และธุรกิจบริการทางการเงิน,ธุรกิจการแพทย์แม่นยำและการแพทย์เพื่ออนาคต,ธุรกิจการศึกษาและศูนย์วิจัยพัฒนาระดับนานาชาติ สำหรับธุรกิจเพื่ออนาคต,ธุรกิจบริการ เช่น ท่องเที่ยว สันทนาการ กีฬา,ธุรกิจบีซีจี และธุรกิจที่อยู่อาศัยและการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ผสมผสานหรือมิกซ์ยูส ซึ่งพื้นที่โครงการแบ่งสัดส่วนการพัฒนาเป็นพื้นที่โครงสร้างพื้นฐาน 70% และพื้นที่ใช้สอย 30%

นายกอทองกล่าวว่า โดยระยะที่ 1 ใช้ระยะเวลา 5 ปี ครอบคลุมพื้นที่ 5,795 ไร่ มูลค่าลงทุน 534,985 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารรูปโภค ศูนย์กลางธุรกิจ ศูนย์การแพทย์และสุขภาพ ที่อยู่อาศัยและพานิชยกรรมรูปแบบมิกซ์ยูสประกอบด้วย สำนักงาน ศูนย์การค้า ศูนย์การประชุม ส่วนที่เหลือจะพัฒนาในระยะถัดไป ล่าสุดได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ(MOU) กับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)พัฒนาธุรกิจบีซีจีและการกีฬาแห่งประเทศไทย(กทท.) พัฒนาสปอตคอมเพล็กซ์ พื้นที่ 1,500 ไร่ ขณะที่ส่วนอื่นๆอยู่ระหว่างหาผู้ร่วมลงทุน เช่น ที่อยู่อาศัย มิกซ์ยูส ซึ่งผู้ลงทุนจะได้สิทธิประโยชน์ตามกฎหมายอีอีซีที่กำหนดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถรองรับการอยู่อาศัยได้ 350,000 คน เกิดการจ้างงาน 200,000 ตำแหน่ง และสร้างความเจริญให้กับพัทยาและสนามบินอู่ตะเภาด้วย

“เราอยู่ระหว่างกำหนดอัตราค่าเช่า มีเอกชนไทยและต่างชาติให้ความสนใจ ในแผนงานโครงการแบ่งการลงทุน 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นระบบโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา สื่อสาร บำบัดน้ำเสีย รีไซเคิลขยะ รวมถึงระบบขนส่งมวลชนที่จะเชื่อมกับรถไฟโมโนเรลของเมืองพัทยามายังโครงการรวมถึงสปอร์ตคอมเพล็กซ์ของกทท.ด้วย โดยการลงทุนเป็นรูปแบบ PPP คาดปี 2569 จะเปิดประมูลส่วนแรกและเริ่มเคลียร์พื้นที่ปี 2570 ส่วนที่ 2 เป็นการพัฒนาพื้นที่จาก 6 ธุรกิจเป้าหมาย คาดว่าปี 2570 เริ่มปล่อยเช่าพื้นที่ เพื่อให้เอกชนที่สนใจลงทุนพัฒนาโครงการ เช่น ที่อยู่อาศัยจะมีทั้งบ้านและคอนโดมิเนียมในทุกเซกเมนต์ โครงการมิกซ์ยูส เป็นการเช่าระยะยาว 50 ปี+49 ปี เริ่มพัฒนาปี 2571 คาดแล้วเสร็จปี 2573 พร้อมกับรถไฟควมมเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน”นายกอทอง กล่าว

นายกองทอง กล่าวว่า เป้าหมายของโครงการเมืองใหม่อีอีซี คือเป็นเมืองต้นแบบของประเทศไทยได้มาตรฐานต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง รวมทั้งจะมาช่วยแก้เพนพอยต์ที่ประเทศไทยทำไม่ได้ และให้เป็นเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ 1 ใน 10 เมืองของโลก