นายแพทย์ซุลกีฟลี ยูโซ๊ะ หัวหน้าหน่วยแพทย์ไทยเพื่อกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย นำทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ลงพื้นที่ให้บริการตรวจสุขภาพเชิงรุกแก่ฮุจญาจ ณ โรงแรมฮิลตันสวีท ย่านเขาญาบัลอุมัร ใจกลางนครมักกะห์ โดยมีฮุจญาจให้ความสนใจเข้ารับการตรวจสุขภาพอย่างคึกคัก

นายแพทย์ซุลกีฟลี เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกหลังจากที่ฮุจญาจไทยได้เคลื่อนย้ายจากนครมาดีนะห์มายังนครมักกะห์ โดยหน่วยแพทย์มีแผนจะลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและตรวจสุขภาพฮุจญาจตามที่พักต่าง ๆ เป็นประจำทุกวัน ทั้งนี้ ฮุจญาจส่วนใหญ่มีประวัติการรักษาจากประเทศไทยก่อนออกเดินทาง ทำให้หน่วยแพทย์สามารถติดตามและดูแลได้อย่างใกล้ชิด อาการเจ็บป่วยที่พบส่วนใหญ่ ได้แก่ อาการไอ ไข้หวัด และเจ็บคอ ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัวหรืออาการรุนแรง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคทางเดินหายใจ หน่วยแพทย์จะประสานส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลในประเทศซาอุดีอาระเบีย ล่าสุดมีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว 9 ราย โดยหายดีและกลับที่พักแล้ว 6 ราย และยังอยู่ระหว่างการรักษาอีก 3 ราย ด้านนายยาเซฟ มันมะ หนึ่งในฮุจญาจที่เข้ารับการตรวจสุขภาพ กล่าวว่า รู้สึกอุ่นใจและขอบคุณหน่วยแพทย์ไทยที่ลงพื้นที่ดูแลอย่างใกล้ชิด ถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้แสวงบุญทุกคนในระหว่างการประกอบพิธีฮัจย์ในต่างแดน

นอกจากนี้ สำนักงานกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทยร่วมกับสำนักงานแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการประสานงานและอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายฮุจญาตชาวไทยซึ่งพักรักษาตัว ณ โรงพยาบาลคิงฟาฮัด เมืองมาดีนะห์ หลังจากทีมแพทย์ของทางการซาอุดีอาระเบียได้ประเมินว่าอาการของผู้ป่วยดีขึ้นและสามารถเดินทางต่อไปยังเมืองมักกะห์ได้เจ้าหน้าที่เบี๊ยะซะห์ของสำนักงานกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทยได้ให้การดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วยตลอดการเดินทาง โดยเลือกใช้บริการรถไฟความเร็วสูง ชั้นบิซิเนสคลาส เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับความสะดวกสบายสูงสุด พร้อมมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเส้นทาง

ในส่วนของการเตรียมการที่เมืองมักกะห์ สำนักงานแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทยได้จัดเตรียมทีมบุคลากรทางการแพทย์ประจำจุดรับที่สถานีรถไฟ พร้อมพาหนะฉุกเฉินทางการแพทย์สำหรับรับส่งผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลของสำนักงานแพทย์ฯ เพื่อเข้ารับการพักฟื้นและติดตามอาการอย่างใกล้ชิดผู้ป่วยเดินทางถึงสถานพยาบาลของสำนักงานแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ณ เมืองมักกะห์การดำเนินการครั้งนี้สะท้อนถึงความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของทั้งสองหน่วยงาน ในการอำนวยความสะดวกและดูแลสวัสดิภาพของฮุจญาตชาวไทยอย่างรอบด้านตลอดช่วงเวลาของการประกอบพิธีฮัจย์