นางเฉลิม ฉิมครบุรี ผู้ใหญ่บ้านหนองโบสถ์ หมู่ที่ 8 ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ตัดสินใจนำเอามะม่วงนานาชนิดที่ปลูกเอาไว้ภายในสวน มาแปรรูป ด้วยการทำเป็นมะม่วงหนึบหนับ เพื่อเพิ่มมูลค่า และเก็บเอาไว้รับประทานให้นานขึ้น หลังจากที่ในปีนี้มะม่วงแทบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นมะม่วงที่ปลูกเอาไว้จำหน่าย หรือที่ขึ้นอยู่ตามหัวไร่ปลายนา ติดลูกดกเต็มต้นทั่วทุกพื้นที่ จนทำให้ขายไม่ได้ราคา ประกอบกับในช่วงนี้เป็นช่วงที่มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในพื้นที่บ่อยครั้ง ทำให้มะม่วงร่วงหล่นเสียหายทิ้งโดยเปล่าประโยชน์เป็นจำนวนมาก

โดยผู้ใหญ่เฉลิมฯ บอกว่า ปีนี้มะม่วงติดผลออกดกเต็มต้นแทบทุกชนิด ทำให้ในพื้นที่ซื้อขายกันไม่ได้ราคา จึงคิดหาวิธีนำมาแปรรูปเพื่อเก็บไว้รับประทาน รวมถึงเพิ่มมูลค่า และเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายสร้างรายได้ให้มากขึ้น โดยคิดเอามาทำเป็นมะม่วงหนึบหนับ ที่สามารถเก็บเอาไว้กินได้นาน และยังเป็นที่นิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งวิธีการทำก็ไม่ยาก เพียงแค่เลือกเอามะม่วงที่มีรสชาติเปรี้ยว อย่างมะม่วงแก้วขมิ้น ที่นิยมปลูกกันมาก หรือมะม่วงพันธุ์พื้นบ้านต่างๆ ที่มีเนื้อแน่นที่แก่จัดแล้ว มาปลอกเปลือก แล้วแช่ด้วยน้ำเกลือผสมกับน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูเล็กน้อยประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อล้างยางออก

จากนั้นหั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ 1 นิ้ว แช่น้ำปูนใส 2 ชั่วโมง แล้วล้างออก นำไปเคี่ยวกับน้ำตาลในอัตราส่วน มะม่วง 3 กิโลกรัม ต่อน้ำตาล 2 กิโลกรัม เกลือ และน้ำมะนาว หรือน้ำส้มสายชู เพื่อตัดรสหวานอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ เทน้ำผสมลงไปเคียวเรื่อยๆให้พอหนืด ด้วยไปกลางค่อนอ่อน ประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นนำขึ้นมาพักให้เย็น แล้วนำไปตากแดดจัด 1 แดด ก็จะได้มะม่วงหนึบหนับ ที่จะมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ให้เนื้อสัมผัสที่นุ่มหนึบหนับ แต่ไม่เหนียวติดฟันเหมือนกับมะม่วงกวน มาเก็บไว้รับประทานนานหลายเดือน และยังสามารถจำไปแบ่งจำหน่ายสร้างเป็นรายได้เสริมอีกด้วย

โดยราคาจำหน่ายมะม่วงหนึบหนับนี้จะอยู่ที่ประมาณขีดละ 25 บาท ซึ่งมะม่วงสด 3 กิโลกรัมจะได้เป็นมะม่วงหนึบหนับประมาณครึ่งหนึ่ง หรือ ประมาณ 1.5 กิโลกรัม ตัวเองได้พยายามที่จะทดลองทำเป็นแบบอย่างชาวบ้าน ในการที่นำเอานำวัตถุดิบที่เหลือกินเหลือใช้ในชุมชนมาแปรรูป เพื่อมูลค่า เก็บไว้กินและจำหน่ายสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัวได้อีกทางหนึ่ง

สมพล พัฒนคุณานนท์ จ.นครราชสีมา รณฤทธิ์ นวนครบุรี ผช. รายงาน