วันที่ 9 เมษายน 2568 เวลา 14.00 น. 

ที่ ห้องประชุมเจ้าสุมนเทวราช ชั้น 6
 ศาลากลางจังหวัดน่าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานการประชุมศูนย์บัญชา การเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดน่าน ครั้งที่ 11/2568 โดยมีนางวิไลวรรณ บุดาสา รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นายบรรจง ขุนเพรช รองผู้ว่าราชการ พร้อมด้วยส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมฯ โดยมีนายอำเภอและผู้แทนทั้ง 15 อำเภอ ร่วมประชุมรายงานผลการดำเนินงานของแต่ละอำเภอผ่านระบบVDO Conference ด้วย

       สำหรับมาตรการของผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้สั่งติดตามสถานการณ์อย่างเข้มข้น โดยอำเภอประชุมทุกวันจันทร์ กลุ่มอำเภอประชุมทุกวันอังคาร และระดับจังหวัดประชุมสัปดาห์ที่ 2 และ 4 ของเดือน มาตรการสำคัญได้มีการควบคุมพื้นที่เสี่ยง ไร่นา-ป่า-ชุมชน พร้อมได้เน้นย้ำการดำเนินงานให้นายอำเภอ และทุกภาคส่วน ดำเนินมาตรการเชิงรุก เพื่อให้ทุกหน่วยงานทำงานอย่างเป็นเอกภาพ ภายใต้แนวทางบูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งการป้องกัน การดับไฟ และการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ที่กระทำผิดอย่างเด็ดขาด ขอให้นายอำเภอทุกอำเภอดำเนินมาตรการเคาะประตูบ้านอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีค่า Hotspot สูงขึ้น ให้ออกตรวจและตรวจซ้ำในพื้นที่ที่เกิดไฟไหม้ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์เนื่องจาก ให้นายอำเภอผนึกกำลังกับผู้นำชุมชนและเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องสร้างความเข้าใจ ขอความร่วมมือจากประชาชนหยุดเผา ลดควัน ลดฝุ่น ตั้งจุดเฝ้าระวังการดับไฟป่า คุมเข้มทางเข้าอุทยานฯ และเขตพื้นที่ป่า สกัดกั้นการลักลอบเผาป่าพร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงและยกระดับพื้นที่นำร่องใน 3 อำเภอได้แก่ อำเภอนาน้อย นาหมื่น และเวียงสา โดยให้มีจุดเฝ้าระวังการดับไฟป่าตลอด 24 ชั่วโมง

      ทั้งนี้ จุดความร้อนสูงสุด 5 อันดับ ภายในจังหวัดน่าน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 8 เมษายน 2568 ได้แก่ อำเภอเวียงสา 1,107 จุด อำเภอนาน้อย 736 จุด อำเภอนาหมื่น 386 จุด  อำเภอแม่จริม 233 จุดและอำเภอเฉลิมพระเกียรติ 184 จุด โดยจังหวัดน่านได้มีการปิดพื้นที่ป่าอุทยาน แล้วจำนวน 3 แห่งได้แก่ อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. 68 - 30 เม.ย. 68 และอุทยานแห่งชาติขุนสถานตั้งเเต่วันที่ 18 ก.พ. 68 - จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยยกเว้นพื้นที่ให้บริการและในกรณีที่มีเหตุจำเป็น หัวหน้าอุทยานพิจารณาเป็นกรณีไป โดยยังสามารถหาของป่าได้ตามปกติ นำบัตรประจำตัวประชาชนไปด้วยทุกครั้ง และห้ามคนนอก/ต่างพื้นที่ เข้าพื้นที่เด็ดขาด หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน100,000 บาท ยกเว้นอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ห้ามเข้าโดยเด็ดขาดทุกกรณีตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. 68 – จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย 
        ด้านนายชัยณรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวในที่ประชุมว่า ทั้งนี้อำเภอโซนใต้ยังให้คงมาตรการไว้ก่อน ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง21วัน โดยขอฝากนายอำเภอ ดูแลค่าใช้จ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอย่างเข้มงวด ส่วนอำเภอโซนกลาง และโซนใต้ให้เตรียมวางแผนโดยใช้ข้อมูลในปีที่แล้วทำแผนออกมาเพื่อตั้งรับในปีถัดไป หากจะต้องตั้งด่านจะต้องมีกี่จุดสำหรับอำเภอ ตำบล ใดบ้าง รวมทั้งนี้ให้นายอำเภอพูดคุยทำความเข้าใจกับนายกอบต.ในการวางแผนเตรียมงบประมาณเพื่อรองรับในภารกิจนี้ในปีถัดๆไป นอกจากนี้น่านยังคงต้องการฝนหลวงโดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสอบถามการขอฝนหลวงเพื่อปฎิบัติในช่วงโซนเหนือ สิ่งสำคัญที่สุดขอให้นายอำเภอเฝ้าสังเกตุเหตุการณ์ไฟป่าในพื้นที่การรับผิดชอบของในอำเภอนั้นอย่างเข้มงวดและรวดเร็ว โดยให้รีบรายงานสั่งการอย่างเร่งด่วนติดตามตลอด 24 ชั่วโมง

@@@@@@@@

กัลยา สองเมืองแก่น น่าน