จากกรณีที่ผู้นำท้องถิ่นได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านว่า พบเห็นการกระทำของเจ้าอาวาสวัดดังแห่งหนึ่ง ในอำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี แล้วได้แจ้งไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้องโดยตรงคือสำนักพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงอีกหลายหน่วยได้เข้าไปตรวจสอบไปแล้วนั้น และได้รับการแก้ไขไปแล้ว แต่การกระทำบางอย่างที่ขัดต่อ พรบ.สงฆ์ ยังถูกปล่อยให้ดำเนินการอยู่ ล่าสุดทางผู้ร้องจึงได้ทำหนังสือร้องไปยัง สำนักงานตรวจการแผ่นดิน แล้วทางสำนักงานตรวจการแผ่นดินได้ส่งหนังสือกลับมายัง ที่ว่าการอำเภอท่ามะกา ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อร้องเรียนเป็นเรื่องเร่งด่วน แล้วส่งกลับไปยังสำนักงานตรวจการแผ่นดินต่อไป

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานประกอบด้วย  นางอรทัย วงศ์วัชรมงคล นายอำเภอท่ามะกา มอบหมายให้นายอรรถพล กันทรัพย์ ปลัดอำเภอท่ามะกา ฝ่ายความมั่นคง เป็นตัวแทนเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับทาง เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอท่ามะกา  จนท.ปลัด อบต.  จนท.สำงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี จนท.สำนักงานป่าไม้จังหวัดกาญจนบุรี จนท.สำนักงานธนารักษ์จังหวัดกาญจนบุรีจนท. สำนักงานที่ดินอำเภอท่ามะกา  สมาชิกสภาจังหวัดกาญจนบุรี เขต อำเภอท่ามะกา  กำนัน / ผู้ใหญ่บ้าน  และ ดร.รหัส   แสงผ่อง  ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลเขาสามสิบหาบ ร่วมกับชาวบ้าน ลงพื้นที่ร่วมกันตรวจสอบ แนวที่ดินของวัด รวมถึง บริเวณสวนไผ่ญี่ปุ่น ติดป้ายชื่อเป็นของวัดดัง ของอำเภอท่ามะกา จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวบรรยากาศร่มรื่นสวยงามมาก มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปเที่ยวชมไม่ขาดสายทุกวัน  กลางสวนสร้างพระองค์ขนาดใหญ่  และบริเวณจุดทางเข้ามีธูปเทียน วางจำหน่าย ให้ตามกำลังศรัทธา อโดยสวนไผ่แห่งนี้สร้างบนเนื้อที่กว่า 10 ไร่ บางส่วนสร้างเป็นจุดจอดรถ  ซึ่งมีกรรมการของวัดเฝ้าอยู่ทุกจุด

       หลังจากหน่วยงานได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบในจุดต่างๆ ตามที่ร้องเรียน ได้เดินทางไปพบกับ พระครูเกรียงไกร  ติกขวิริโย เจ้าอาวาสวัดเขาสูงแจ่มฟ้า พร้อมเอกสารเรื่องที่ถูกร้องเรียน จำนวน 5 ข้อ กล่าวหากระทำการผิด พรบ.สงฆ์ โดยทางปลัดฝ่ายความมั่นคง ได้ชี้แจงข้อร้องเรียนให้ เจ้าอาวาสทราบ ก่อนที่ทางเจ้าอาวาส ได้แจงว่าการร้องเรียนเพื่อวัตถุประสงค์ใด และแจ้งว่าตนเองนั่งทำงานอยู่ตรงจุดนี้มากว่า 27 ปี แล้วเรียกญาติโยมมาร่วมทำบุญ รายได้แบ่งส่วนเป็นของส่วนตัวไม่เกี่ยวกับของวัดฯ ส่วนที่ดินสวนไผ่ เป็นของญาติโยมรายหนึ่ง เจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบ สุดท้ายเจ้าอาวาสต้องยอมรับว่าเป็นของตนเองได้ซื้อมาบางส่วน ส่วนลานจอดรถ 2 แปลง ได้เช่ากับชาวบ้าน 

       จากนั้นเจ้าอาวาสได้ใช้เครื่องขยายเสียงแจ้งให้คณะกรรมการของวัดนำเอกสารการแต่งตั้ง มาแสดงกับทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วย สร้างความวิตกแก่ผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นไวยาวัจกร และคณะกรรมการของวัด ต่อมาเจ้าอาวาสฯ ได้ใช้โทรศัพท์ติดต่อให้เจ้าของแบ็กโฮ นำรถแบ็กโฮ เพื่อมาเปิดเส้นทางตามที่ถูกร้องเรียนทันที  

       ส่วนเรื่องอื่นๆ ตามที่ทาง  ดร.รหัส   แสงผ่อง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลเขาสามสิบหาบ ประธานป่าชุมชนบ้านหนองหิน-เขาสูง หมู่ 1 ตำบลเขาสามสิบหาบ เป็นตัวแทนชาวบ้าน แจ้งว่าตนเองยังต้องร้องเรียนต่อไป เพราะการเข้ามาในครั้งนี้ได้แก้ไขเพียงส่วนน้อย ส่วนเรื่องที่ดิน เรื่องรายได้ที่เจ้าอาวาสฯดำเนินการ มันขัดกับ พรบ.สงฆ์ เพราะเจ้าอาวาส เป็นเจ้าคณะตำบล แต่กระทำผิดเองหลายมาตรา ประกอบด้วย มาตรา 45 มาตรา 157 มาตรา 147 ซึ่งพระภิกษุสามเณร หรือบุคคลใด ที่ครอบครองเงินของวัด แต่นำไปซื้อที่ดินโดยเจตนาเพื่อเป็นของตนหรือของผู้อื่น ถือว่าเป็นการเบียดบังทรัพย์สินชองวัดมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์สินของวัด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 หากทางเจ้าอาวาสฯ ยังปฏิบัติอยู่ตนเองก็จะต้องร้องเรียนต่อไป./
   /////////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา   ไหลวารินทร์ - รายงาน