วันที่ 13 ธันวาคม นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ที่มีการเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลคดีตากใบ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2546 โดยระบุว่า รู้สึกประหลาดใจให้กับผู้เข้าร่วมประชุมและผู้มาชี้แจงกรณีคดีตากใบอย่างยิ่ง

นายกัณวีร์ กล่าวว่า แม้ว่าการเยียวยาต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจะดำเนินการแล้วได้เป็นอย่างดีจากภาครัฐ ซึ่งต้องขอบคุณรัฐบาลทุกชุดที่ผ่านมา โดยผ่านทาง ศอ.บต. ทั้งเรื่องการเยียวยาด้วยตัวเงินและทางจิตใจ ประชาชนได้รับการตอบสนองอย่างดี แต่คดีที่เป็นอาญาแผ่นดิน ที่ประชาชนเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ ขณะเคลื่อนย้ายคนจำนวนกว่าหนึ่งพันคนจาก อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 80 คน

 “ที่น่าตกใจคือคดีนี้เป็นคดีสำคัญที่ได้รับความสนใจไม่เพียงแต่ภายในประเทศ เวทีระหว่างประเทศก็ให้ความสนใจอย่างสูง และอายุคดีความจะสิ้นสุดลงในวันที่ 25 ต.ค. 2567 เรื่องผ่านมาแล้ว 19 ปีกว่า และเหลือเวลาอีกแค่ 10 เดือน แต่ข้อมูลสำนวนในคดีนี้ในระบบฐานข้อมูลทางกระบวนการยุติธรรมกลับยังไม่สามารถหาได้ ตำรวจในพื้นที่ไปค้นหาข้อมูลสำนวนที่ศาล จ.สงขลา แต่ไม่สามารถหาข้อมูลได้ อัยการท่านก็ไม่มีข้อมูลในระบบฐานข้อมูลของสำนักงานอัยการในพื้นที่”

นายกัณวีร์ กล่าวว่า คงเป็นไปไม่ได้ที่ข้อมูลสำนวนคดีสำคัญนี้จะหายไปจากสารระบบของกระบวนการยุติธรรมของไทย ครอบครัวผู้เสียหายยังรอคำตอบจากภาครัฐถึงความเป็นธรรมอย่างใจจดใจจ่อมาเกือบ 20 ปีแล้ว คณะกรรมาธิการฯ ได้ขอให้ทางอัยการและทางตำรวจช่วยหาคำตอบมาภายใน 1 เดือน ว่าการเดินทางของสำนวนนี้ติดขัดอยู่ที่ใด เพราะจริงๆ แล้วควรมาจากศาล ถึงอัยการ ถึงตำรวจพื้นที่เพื่อเร่งทำการสอบสวนตามสำนวนเพิ่มเติม แต่การเดินทางของสำนวนนี้เดินทางมาแล้ว 19 ปี 2 เดือน เหลืออีก 10 เดือนข้างหน้าที่คดีจะหมดอายุความ

“10 เดือนนี้จะต้องมีการติดตามอย่างใจจดใจจ่อและไม่ลดละ กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบต้องได้รับความเป็นธรรม และการปล่อยให้การดำเนินคดีผู้กระทำผิดลอยนวลมาจนคดีใกล้หมดอายุความ เป็นความล่าช้าที่ไม่ยุติธรรม” นายกัณวีร์ กล่าว