เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2566 เวลา 14.30 นาฬิกา นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดการจัดกิจกรรมเกาะลันตาคายักแรลลี่เดย์ 2023 ซึ่ง ที่หมู่ 4 ชุมชนท่องเที่ยวบ้านทุ่งหยีเพ็ง ตำบลศาลาด่าน อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้าร่วมแข่งขันรวม 80 คน 44 ทีมๆละ 2 คน เป็นชาวไทย 47 คน ชาวต่างชาติ 23 คน ซึ่งไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เป็นการแข่งขันประเภทนันทนาการท่องเที่ยว ระยะทาง 4 กิโลเมตร ทำการปล่อยเรือออกเป็น 4 เที่ยว โดยมีนายอะหมาน หมัดอะดัม ผู้อานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัดกระบี่ กล่าวรายงานและวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมดังกล่าวว่า

       การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสานักงานจังหวัดกระบี่ ร่วมกับสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะลันตา สมาคมผู้ประกอบการโรงแรมเกาะลันตา และชุมชนท่องเที่ยวชุมชนทุ่งหยีเพ็ง จัดกิจกรรมดังกล่าวเพื่อมุ่งเน้นประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวเกาะลันตาสามารถเที่ยวได้ทั้งปี และกิจกรรมท่องเที่ยวทางน้ำโดยเฉพาะเรือคายัคนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาทำกิจกรรมได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งการแข่งขันพายเรือคายัคจัดขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อต้องการให้นักท่องเที่ยวได้สนุกสนานกับการพายเรือคายัก ชมทัศนียภาพของผืนป่าชายเลนในลำคลองหลายสายที่มีความสวยสดงดงาม ทั้งคงวามอุดมสมบูรณ์หลากหลายทางชีวภาพของผืนป่า ได้มีการศึกษาสัตว์น้ำ สัตว์ที่อาศัยอยู่ในแนวป่าไม้โกงกาง และศึกษาความเป็นอยู่ของปูก้ามดาบที่มีหลายหลายสายพันธุ์ ในป่าไม่โกงกางของชุมชนบ้านทุ่งหยีเพ็ง โดยคาดว่ามีผู้เข้าร่วมกิจกรรมและติดตามเดินทางเข้าในพื้นที่เกาะลันตา 500 คน

       โดยนายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า  นับว่าเป็นกิจกรรมที่ดีโดยผู้จัดได้หยิบยกการนำเสนอกิจกรรมท่องเที่ยวในช่วงฤดูกาลกรีนซีซั้น ว่าการพายเรือคายัคชุมชนทุ่งหยีเพ็งซึ่งโด่งดังหรือเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว ในเรื่องของการพายเรือแจวอาบอรุณซึ่งเริ่มในช่วงเช้าตรู่เวลา 05.00 นาฬิกา แต่ในครั้งนี้ผู้จัดเลือกที่จะเปิดมุมมองใหม่หรือประสบการณ์ใหม่ด้านการท่องเที่ยว ในรูปแบบพายเรือคายัคซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาทำกิจกรรมท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งวัน และที่สำคัญสามารถพายเรือบริเวณชายฝั่งทะเลใกล้กับชุมชนทุ่งหยีเพ็งได้ตลอดทั้งปี เป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์เกาะลันตาว่าสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี การขับเคลื่อนด้านส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ถือว่า อำเภอเกาะลันตาเริ่มมีชื่อเสียงและโด่งดังในปี 2561 จนอาจกล่าวได้ว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวเกาะลันตาในปีนั้นเกือบ 2 ล้านคน 

        ถึงแม้ปัจจุบันภายหลังการกลับมาฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวเกาะลันตาอาจจะยังกลับมาไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ แต่จังหวัดกระบี่ก็ได้ส่งเสริมในเรื่องการสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้นในเกาะลันตาอย่างจริงจัง ผ่านการส่งเสริมให้มีการทำปฏิญญาอ่าวลันตา ที่ชาวเกาะลันตาได้ร่วมลงนามปฏิญญาไปเมื่อเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งปฏิญญานี้เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเกาะลันตาสู่ทิศทางที่ยั่งยืนภายใต้แนวคิดบลูแอนกรีนไอแลน์ ซึ่งถือเป็นการทำงานภายใต้นโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการนาเอาโมเดลเศรษฐกิจบีซีจีโอเดล มาเป็นแนวทางสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ เอสดีจีเอส 17 ข้อที่มุ่งบรรลุเป้าประสงค์ของการพัฒนาจังหวัดสู่ความยั่งยืน และที่สำคัญเมื่อเดือนสิงหาคม 2566 ทางชุมชนทุ่งหยีเพ็งก็เพิ่งได้รับรางวัลดาวแห่งความยั่งยืน ทีเอทีสตราร์ ระะดับ 5 ซึ่งถือเป็นเกณฑ์สูงสุด ในเรื่องแหล่งท่องเที่ยวที่บรรลุเป้าประสงค์เอสดีจีเอส ไม่น้อยกว่า 9 ข้อ