วุฒิสภา จัดโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน หาแนวทางส่งเสริมเกษตรกรหันมาปลูกกาแฟและแมคคาเดเมีย พืชเศรษฐกิจและพืชทางเลือกเพื่อสร้างรายได้

           คณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดตะวันออกเฉียงเหนือ (ตอนล่าง) นำโดยนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา ได้พบปะเพื่อรับฟังความคิดเห็นร่วมกับเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการหาแนวทางส่งเสริมการปลูกกาแฟและแมคคาเดเมีย ให้เป็นพืชเศรษฐกิจและพืชทางเลือกสำหรับเกษตรกรในพื้นที่สูง

          หลังจากคณะกรรมการฯ ได้ลงพื้นที่บ้านดงมะไฟ อำเภอสูงเนิน เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2564 พบว่า ผลิตภัณฑ์กาแฟดงมะไฟ เป็นกาแฟทางเลือกใหม่ที่ได้รับการจดขึ้นทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์สินค้าตามสิ่งบ่งขี้ทางภูมิศาสตร์ไทย (Thai Geographical Indication) เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2559 ซึ่งบ้านดงมะไฟเป็นพื้นที่ไม่กี่แห่งในจังหวัดนครราชสีมาที่สามารถปลูกพืชเกษตรบนที่สูงได้ โดยจากระดับความสูง 400-700 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลางจากตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ทำให้กาแฟดงมะไฟมีอัตลักษณ์ รสชาติกลมกล่อม กลิ่นหอม นุ่มนวล ที่สำคัญคือมีสารคาเฟอีนเพียง 1% ตามธรรมชาติ

          โดยการลงพื้นที่ของคณะกรรมการฯ ครั้งนี้ ได้จัดให้มีการส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้องในการเพิ่มประสิทธิภาพการปลูกกาแฟและแมคคาเดเมีย เพื่อพัฒนาความรู้ของเกษตรกรให้มีความรู้ความสามารถในการแปรรูปสินค้า เพื่อสร้างมูลค่าพืชเศรษฐกิจให้มีมูลค่าสูงขึ้น ครบวงจรทั้งด้านการผลิตและด้านการตลาด

          โครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน เป็นโครงการที่ประธานวุฒิสภามอบหมายให้รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง (พลเอก สิงห์ศึก สิงห์ไพร) เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกภาคส่วนและเจ้าหน้าที่ของรัฐในทุกระดับ สามารถใช้เป็นเวทีที่ได้เข้ามาร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้และช่วยกันขับเคลื่อนประเทศ ตั้งแต่ระดับฐานราก ชุมชน สังคม และระดับประเทศ ให้พัฒนาไปข้างหน้าได้อย่างสอดคล้องกันและเป็นระบบ เพื่อให้เกิดความตระหนักสำนึกรับผิดชอบต่อประเทศชาติและสังคมโดยรวม นำไปสู่สังคมที่ประชาชนมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดีมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกด้าน บนพื้นฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

          สำหรับโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ตอนล่าง) ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2562 โดยมีพื้นที่การดำเนินงาน 8 จังหวัด โดยมีจำนวนครั้งการลงพื้นที่ ดังนี้ จังหวัดชัยภูมิ 3 ครั้ง จังหวัดสุรินทร์ 3 ครั้ง จังหวัดบุรีรัมย์ 1 ครั้ง จังหวัดยโสธร 3 ครั้ง จังหวัดศรีสะเกษ 3 ครั้ง จังหวัดอำนาจเจริญ 2 ครั้ง จังหวัดอุบลราชธานี 3 ครั้ง และจังหวัด

นครราชสีมา ดำเนินการไปแล้ว 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4