วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568 เวลา 09.15 น. เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์) เป็นประธานเปิด “โครงการมหกรรมไกล่เกลี่ยเรื่องร้องทุกข์ของผู้บริโภค ครั้งที่ 3” โดยมี ผู้อำนวยการกองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภคและสื่อสารองค์กร นายกิตติ อึ้งมณีภรณ์ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมดังกล่าว ณ โรงแรมทีเค. พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้า ส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจมีรูปแบบและใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาที่ตามมาส่งผลกระทบทำให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย ถูกเอาเปรียบ และไม่ได้รับความเป็นธรรม สคบ. เป็นหน่วยงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ที่เดินหน้าสร้างความเป็นธรรมและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคในทุกมิติ จึงได้เร่งปฏิบัติการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องร้องทุกข์ให้ผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรมและได้รับการเยียวยาแก้ไขปัญหาที่ได้รับให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพิ่มมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ สคบ. เล็งเห็นถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องทุกข์ของผู้บริโภค จึงได้จัดโครงการ “มหกรรมไกล่เกลี่ยเรื่องร้องทุกข์ของผู้บริโภค ครั้งที่ 3” ขึ้น โดยที่ผ่านมา สคบ. ได้ดำเนินโครงการมหกรรมไกล่เกลี่ยเรื่องร้องทุกข์ของผู้บริโภค พบว่า มีความสำเร็จอย่างชัดเจนโดยมีจำนวนเรื่องร้องทุกข์ที่ผู้บริโภคได้รับการแก้ไขปัญหาได้เพิ่มมากขึ้นกว่า 10 เท่าของการดำเนินการในรูปแบบปกติ และจากการดำเนินการจัดทำโครงการดังกล่าวข้างต้นสามารถเจรจาไกล่เกลี่ยสำเร็จรวมทั้งสิ้น 4,169 เรื่อง ซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการนำ “กระบวนการไกล่เกลี่ยแบบกลุ่ม” เข้ามาใช้ในการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องทุกข์ของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและตรงประเด็น ทั้งนี้ การส่งเสริมกระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล อันเป็นการสร้างความสมานฉันท์ระหว่างผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจซึ่งถือเป็นนโยบายของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาว จิราพร สินธุไพร) ที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องทุกข์ของผู้บริโภค และลดจำนวนเรื่องร้องทุกข์อย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่า จะสามารถคลี่คลายปัญหาเรื่องร้องทุกข์ระหว่างผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจได้ รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือระหว่างผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจผ่านกระบวนการไกล่เกลี่ยอย่างสันติวิธี และเป็นการสนับสนุนการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคอย่างยั่งยืน ตอบสนองต่อสภาพปัญหาที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคดิจิทัล และสร้างกลไกการแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพ