วันพุธที่ 7 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.30 น. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จัดพิธีมอบรางวัลแก่หน่วยงานที่สามารถลดจุดความร้อน (HOTSPOT) ในปี 2568 ดีเด่น และหน่วยงานร่วมบูรณาการป้องกันไฟป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพในการนี้ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้  นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นประธานในพิธีดีวกล่าว โดยมีนายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กล่าวรายงาน ณ ศูนย์สาธิตการควบคุมไฟป่า ตำบลช่องสะเดา อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่แรกในการจัดพิธีมอบรางวัล ภายในงานมีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พระครูวิสุทธานันทคุณ, ผศ.ดร. เจ้าอาวาสวัดเขาช่องพราน เจ้าคณะอำเภอโพธาราม นายอำเภอ ทหาร ผู้บริหารองค์กรเอกชน (NGO) ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หน่วยงานส่วนราชการที่สนับสนุนด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า และเครือข่ายภาคประชาชนตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มุ่งเน้นการจัดการไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองแบบบูรณาการ โดยมีการจัดการเป็นกลุ่มป่า 14 กลุ่มป่า และกำหนดเป้าหมายในการลดพื้นที่เผาไหม้ลงจากปี 2567 ให้ได้ร้อยละ 25 นั้น กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้กำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เป็นแนวทางปฏิบัติให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลการดำเนินงานพบว่า จุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทุกพื้นที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึงร้อยละ 40.52 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยจุดความร้อนสะสมในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 จนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ในพื้นที่เป้าหมาย 14 กลุ่มป่า มีจุดความร้อนลดลงถึงร้อยละ 40.25% ที่น่าสนใจคือ มีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่สามารถลดจำนวนจุดความร้อนได้มากกว่า 50%-80% จำนวน 31 แห่ง และมีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่สามารถลดจำนวนจุดความร้อนได้มากกว่า 80% อีกจำนวน 31 แห่ง

สำหรับในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ก็พบว่าจุดความร้อนลดลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับสถิติการเกิดจุดความร้อนในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยเฉพาะในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม อุทยานแห่งชาติไทรโยค อุทยานแห่งชาติลำคลองงู อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก มีจุดความร้อนสะสมลดลงจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มากกว่าร้อยละ 80 ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานที่เข้มแข็งและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวในพิธีว่า "พิธีมอบโล่เกียรติคุณและประกาศนียบัตรในวันนี้ จัดขึ้นเพื่อแสดงความชื่นชมและขอบคุณในความทุ่มเท และเสียสละที่ท่านทั้งหลายได้อุทิศให้กับการปฏิบัติภารกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ซึ่งเป็นภารกิจที่ยากลำบาก ต้องเผชิญกับความเสี่ยงนานัปการ แต่ด้วยความมุ่งมั่น และความร่วมมืออันดีของทุกภาคส่วน เราจึงสามารถบรรลุผลสำเร็จที่น่าพึงพอใจ"

อธิบดีกรมอุทยานฯ ยังได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งในพื้นที่เสี่ยง ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ต้องเผชิญกับความร้อน ควันไฟ และความเหนื่อยยาก รวมถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ปกครอง ทหาร องค์กรเอกชน (NGO) ภาคีเครือข่าย อาสาสมัคร ประชาชนทุกท่านที่สนับสนุนการปฏิบัติงานป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่อนุรักษ์ และขอขอบคุณรัฐบาลที่ให้ความสำคัญ กำหนดให้ปัญหา PM 2.5 เป็นวาระเร่งด่วนของชาติและสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ส่งผลให้เกิดผลความสำเร็จในครั้งนี้อีกทั้งในปีนี้ยังมีความร่วมมืออันดีจากหน่วยงานต่างกระทรวง โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย ที่มีการสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิบัติงาน กระทรวงกลาโหม มีการจัดกำลังพลมาร่วมลาดตระเวนในพื้นที่ป่าที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟ ซึ่งถือว่ามีบทบาทที่สำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าจนเกิดผลเป็นรูปธรรม สามารถลดจุดความร้อนได้มากกว่า 40% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลมาจากการปฏิบัติตามนโยบาย "รวดเร็ว ตรงเป้า เข้าถึงพื้นที่ มีประสิทธิภาพสูงสุด" ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีการผนึกกำลังระหว่างภาครัฐและประชาชน เตรียมรับสถานการณ์ไฟป่าและฝุ่นควัน ตลอดจนมุ่งเน้นการสร้างความตระหนักรู้ให้ชาวบ้าน โดยการรณรงค์เคาะประตูบ้านเพื่อลดการลักลอบเผา จึงทำให้พื้นที่เผาไหม้ลดลงจากปีที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด.