ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
คต.เปิดรับฟังความคิดเห็นห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์
22 พ.ย. 2562

 

กระทรวงพาณิชย์ เปิดรับฟังความคิดเห็นร่างประกาศห้ามนำเข้า “ขยะอิเล็กทรอนิกส์” 428 รายการ เพื่อป้องกันการนำขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาก่อปัญหามลพิษในไทย แสดงความคิดเห็นได้ตั้งแต่วันนี้ - 12 ธ.ค.62 ก่อนชง ครม. พิจารณา

นายกีรติ รัชโน ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศได้ยกร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. .... เพื่อห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 428 รายการ คลอบคลุมชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์หรือเศษ (ไม่รวมเศษจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้า) ที่มีส่วนประกอบ ซึ่งได้แก่ ตัวเก็บประจุไฟฟ้า และแบตเตอรี่อื่นๆ สวิทซ์ที่มีปรอทเป็นองค์ประกอบในการทำงาน เศษแก้วจากหลอดรังสีแคโทด และแอกติเวเต็ดกลาสอื่นๆ ตัวเก็บประจุไฟฟ้าที่มีสารพีซีบี หรือที่ปนเปื้อนด้วยแคดเมียม ปรอท ตะกั่ว โพลีคลอริเนทเต็ดไบฟีนิล โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนผ่านทางเว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ www.dft.go.th ระหว่างวันที่ 20 พ.ย. – 12 ธ.ค.62 และหลังจากนี้ กรมฯ จะรวบรวมความคิดเห็นทั้งหมดเสนอคณะรัฐมนตรีก่อนออกประกาศกระทรวงพาณิชย์ฯ ต่อไป

นายกีรติกล่าวเพิ่มเติมว่า การออกประกาศดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาทิ้งในประเทศไทย อีกทั้งยังช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเป็นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่มีอยู่ภายในประเทศอย่างถูกต้องและเหมาะสม

ทั้งนี้ การออกประกาศกระทรวงพาณิชย์เพื่อห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์จะสอดคล้องกับกระทรวงอุตสาหกรรมที่อยู่ระหว่างดำเนินการออกประกาศเพื่อห้ามโรงงานใช้ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่นำเข้าจากต่างประเทศมาเป็นวัตถุดิบในโรงงาน

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองบริหารการค้าสินค้าทั่วไป โทรศัพท์ 02-547-5124, 02-528-7500-29 ต่อ 4503 หรือเว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ www.dft.go.th หรือสายด่วน 1385

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...