ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
ม.หอการค้าไทยเปิดบ้านต้อนรับภริยานายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ร่วมสร้างเยาวชนคุณภาพผ่านโครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์
17 พ.ย. 2562

            โครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ (Ship for Southeast Asian and Japanese Youth Program) เป็นโครงการตามข้อตกลงร่วมกันระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่นกับรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 5 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย มาเลเซีย สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐสิงคโปร์ และประเทศไทย โครงการแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านวัฒนธรรมและวิชาการระหว่างเยาวชนในระดับนานาชาติซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี มีระยะเวลาการดำเนินโครงการ 51 วัน บนเรือนิปปอนมารู รวมถึงประเทศต่าง ๆ ที่เรือเทียบท่า   

               โครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ มีรัฐบาลญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพหลักร่วมกับ 10 ประเทศอาเซียน เริ่มก่อตั้งในปี 2517 และดำเนินการโครงการต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่46 โดยมีตัวแทนเยาวชนและหัวหน้าคณะเยาวชนที่ผ่านคัดเลือกจากรัฐบาลของประเทศญี่ปุ่นและประเทศสมาชิกอาเซียน  โครงการสำคัญนี้มีกิจกรรมมากมาย ทั้งกิจกรรมบนเรือและกิจกรรมในประเทศที่เรือแวะเยือน ได้แก่ การอภิปรายทางวิชาการในหัวข้อที่กําหนด กิจกรรมกีฬาและนันทนาการ กิจกรรมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจอันดีในกลุ่มเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ การเข้าเยี่ยมคารวะบุคคลสําคัญระดับประเทศ การพักกับครอบครัวเจ้าภาพ และการไปทัศนศึกษายังสถานที่สําคัญในประเทศนั้น ๆ

            ล่าสุดมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมกับสมาคมเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์แห่งประเทศไทยได้มีโอกาสต้อนรับท่านผู้หญิง อาเบะ อากิเอะ ภริยาของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและคณะฯ ในวันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2562  เนื่องจากที่ผ่านมามหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเคยมีโอกาสต้อนรับคณะเยาวชนจากโครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ถึงสองรุ่นได้แก่ รุ่นปี 2559 และ 2561 เยาวชนและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้มีโอกาสเรียนรู้ สร้างแรงบันดาลใจ แลกเปลี่ยนทัศนคติ ส่งเสริมความเข้าใจอันดีให้เกิดขึ้นทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ร่วมกับเยาวชนโครงการเรือเยาวชนฯ ซึ่งสอดคล้องตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการเรือเยาวชนฯ อีกทั้งนักศึกษาของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจำนวนกว่าร้อยชีวิตยังได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมเรือนิปปอนมารู ที่ท่าเรือคลองเตยทั้งสองครั้งอีกด้วย

                ท่านผู้หญิง อาเบะ อากิเอะ ภริยา ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า “ดิฉันรู้สึกดีใจที่โครงการเรือเยาวชนมีประโยชน์ต่อเยาวชนในอาซียน รวมถึงประเทศไทย ทุกคนสนับสนุนให้มีโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะโครงการนี้เป็นโครงการที่สามารถเปลี่ยนชีวิตเยาวชนได้ในทิศทางที่ดี อีกทั้งยังเป็นโอกาสที่เยาวชนทุกคนที่เข้าร่วมจะได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับเพื่อนเยาวชนแต่ละประเทศเป็นเวลานาน เยาวชนทุกคนสามารถที่จะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องทั่วไป รวมไปถึงเรื่องวิชาการอย่างตรงไปตรงมาและจริงใจ ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นยินดีที่จะสนับสนุนโครงการเรือเยาวชนให้มีรุ่นต่อ ๆ ไปอย่างแน่นอน”

               รองศาสตราจารย์ ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า “มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต้อนรับภริยาของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและคณะฯ ร่วมกับสมาคมเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์แห่งประเทศไทยครั้งนี้  มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเป็นสถาบันเอกชนชั้นนำที่ไม่แสวงผลกำไร เน้นการศึกษาด้านธุรกิจและอุตสาหกรรมบริการ การร่วมมือกันครั้งนี้นอกจากจะสามารถสร้างตัวแทนเยาวชนที่มีความเป็นผู้นำ  สามารถสร้างความแตกต่างให้สังคม  เข้าใจถึงความหลากหลายของสังคมด้านต่างๆ และมีจิตใจที่มุ่งเน้นการทำประโยชน์และสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมที่สำคัญ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมีอาจารย์ที่ในวัยเรียนเคยมีประสบการณ์เข้าร่วมโครงการเรือเยาวชนเอเชียอาคเนย์ 4 ท่าน ซึ่งล้วนแต่เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ และได้ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้แก่นักศึกษาในปัจจุบัน  และที่สำคัญนักศึกษาของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้มีโอกาสเรียนรู้ และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมร่วมกับเยาวชนในโครงการเรือเยาวชนฯ เมื่อครั้งที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมีโอกาสให้การต้อนรับเยาวชนเหล่านี้ โดยนักศึกษามีโอกาสร่วมออกแบบและทำกิจกรรมเพื่อให้เพื่อนใหม่จากโครงการเรือเยาวชนฯ ได้เรียนรู้วัฒนธรรมอันงดงามของไทย เช่น กิจกรรมการทำกระทง ร้อยมาลัย กระเป๋าผ้าทำมือ การทำอาหารและเครื่องดื่มไทย เป็นต้น ซึ่งสอดคล้องกับการผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยที่เน้นให้นักศึกษาได้คิดและลงมือทำ ตามพันธกิจหลักของมหาวิทยาลัยในการเป็น Practice-University”

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...