ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สื่อสาร - คมนาคม ย้อนกลับ
ศักดิ์สยาม ลุยต่อ ท่าเรือน้ำลึกทวาย คาดช่วยจีดีพี ไทย-เมียนมา โตต่อเนื่อง
17 ต.ค. 2562

รมว.คมนาคม ยืนยัน เดินหน้าโครงการท่าเรือน้ำลึกทวายต่อเนื่อง เพราะเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี คาดส่งผลจีดีพีของทั้ง 2 ประเทศ โตเพิ่ม พร้อมส่งผลมูลค่าการค้ารวมตลอดแนวระเบียงเศรษฐกิจจะสูงถึง 4 ล้านล้านบาท หรือ 1.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐต่อปี

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานร่วมฯ ฝ่ายไทยในการประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างไทย-เมียนมา เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่ที่เกี่ยวข้องครั้งที่ 9 (JCC ) ว่า ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและพิจารณาความคืบหน้าการดำเนินงานการพัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย และพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง และร่วมหารือถึงแนวทางการพัฒนากลไกความร่วมมือสามฝ่าย (เมียนมา-ไทย-ญี่ปุ่น) เพื่อเร่งรัดการพัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายให้ดำเนินการได้ตามเป้าหมาย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยืนยันว่า รัฐบาลไทยจะมีการผลักดันโครงการท่าเรือน้ำลึกทวายต่อไป เนื่องจากการดำเนินการในโครงการดังกล่าว ถือเป็นหนึ่งในแผนการพัฒนายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของประเทศไทย และยืนยันว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญกับโครงการท่าเรือน้ำลึกทวายเป็นลำดับต้นๆ เพราะการเร่งรัดพัฒนาโครงการทวายถือเป็นการพัฒนาที่จะนำมาสู่ความเปลี่ยนแปลงของอาเซียน

สำหรับผลที่คาดว่าจะเกิดต่อเมียนมาและไทยหลังการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวายและเส้นทางคมนาคมขนส่งตามแนวระเบียงเศรษฐกิจนี้ คาดว่าจะส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์มวลรวมการผลิตของประเทศ (GDP) ของเมียนมาจะโต 4.8% และของไทยจะเติบโตเพิ่ม 1.9% โดยคาดว่าจะมีมูลค่าการค้ารวมตลอดแนวระเบียงเศรษฐกิจนี้สูงถึง 4 ล้านล้านบาท หรือ 1.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐต่อปี

นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า รัฐบาลไทย-เมียนมา จะมีการหารือร่วมกันในการพัฒนาทวายต่อไป โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้โครงการทวายเกิดขึ้นโดยเร็ว และในกลางปี 2563 จะมีการประชุมร่วมกันเพื่อผลักดัน โดยประโยชน์ในการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวายจะเป็นการเปิดช่องทางลัดโลจิสติกส์ฝั่งตะวันตกของภูมิภาค เชื่อมโยงแนวระเบียงเศรษฐกิจระหว่างเมียนมา–ไทย–กัมพูชา– เวียดนาม สู่ตลาดฝั่งตะวันตก ทั้งนี้ จะช่วยลดระยะเวลาและต้นทุนในการค้า การขนส่งระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ การพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวายดังกล่าว จะเป็นการเปิดพื้นที่เศรษฐกิจแห่งใหม่ ถือเป็นทางเลือกสำหรับการตั้งฐานทางธุรกิจใหม่ รวมถึงเป็นโอกาสในการขยายฐาน การผลิต ของอาเซียน อุตสาหกรรมเชื่อมโยงกิจกรรมตามห่วงโซ่อุปทาน กับพื้นที่เศรษฐกิจอื่นๆ ของไทย และภูมิภาค และเป็นพื้นที่รองรับฐานการผลิตที่ใช้แรงงานเข้มข้น เป็นปัจจัยสำคัญในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของเมียนมาสู่ภาคอุตสาหกรรมและบริการ พัฒนา เศรษฐกิจในระดับพื้นที่ให้เติบโตและเข้มแข็ง

โดยเชื่อว่าจะเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งจากการลงทุนด้านการก่อสร้าง อุตสาหกรรม การผลิตไฟฟ้า การค้า การขนส่ง การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่นอกเหนือจากการจ้างงานในพื้นที่แล้ว ยังมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน ไฟฟ้า ประปา บริการสาธารณสุข เป็นต้น ซึ่งจะยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนเมียนมาและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่ใกล้เคียง

นอกจากนี้ เมื่อรวมถึงการลงทุนต่อเนื่องในระยะยาวเขตเศรษฐกิจพิเศษและท่าเรือน้ำลึกทวาย ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมขนส่ง อาเซียน (ASEAN Connectivity) และเส้นทางเชื่อมประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงกับอินเดีย (Mekong-India Economic Corridor) เป็นการเปิดเส้นทาง การค้าและประตู เชื่อมเศรษฐกิจฝั่งตะวันตกแห่งใหม่ของภูมิภาค ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง หรือ Greater Mekong Sub-region (GMS) สร้างทางลัดโลจิสติกส์เชื่อมโยงอาเซียนกับ โลกตะวันออกและโลกตะวันตก สู่ตลาดในเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกา และยุโรป

สำหรับท่าเรือน้ำลึกทวายเป็นท่าเรือที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศเมียนมา พื้นที่บริเวณดังกล่าวในปัจจุบันมีการธุรกิจด้านยาง น้ำมันปาล์ม เหมืองแร่ การประมง ท่องเที่ยว และการค้า จากประเทศไทยมีถนนมอเตอร์เวย์เชื่อมจากกรุงเทพไปจังหวัดกาญจนบุรี ข้ามพรมแดนไทยเมียนที่ด่านบ้านพุน้ำร้อน จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งปัจจุบันได้มีการประกาศเป็นจุดผ่านแดนถาวรเมื่อปี 56 ท่าเรือน้ำลึกทวายเป็นโครงการที่อยู่ในแนวระเบียงเศรษฐกิจใต้ตามกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง หรือ GMS เชื่อมโยงเมียนมา ไทย กัมพูชา และเวียดนามตอนใต้

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...